เว็บไซต์ข่าวสถานีโทรทัศน์ CNN เปิดเผยรายงานกึ่งวิเคราะห์ต่อสถานการณ์ของ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หลังจากเข้ามารับไม้ต่อจาก โจ ไบเดน ในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีว่า กระแสของแฮร์ริสเริ่มมีความชัดเจนมั่นคงขึ้น เห็นได้จากการตอบรับในทางบวกของสาธารณชนและกลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะกระแสตอบรับล่าสุดจากผู้คนในแวดวงเทคโนโลยี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ทรงพลังที่สุดของสหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนให้แฮร์ริสสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ
รายงานระบุว่า ความตื่นเต้นและท่าทีสนับสนุนจากบรรดาผู้นำเทคโนโลยีในซิลิคอนแวลลีย์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในรูปแบบของการสนับสนุนและการบริจาคให้กับแฮร์ริส โดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง เชอริล แซนด์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Facebook, รีด แฮสติงส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Netflix และ เมลินดา เฟรนช์ เกตส์ อดีตภรรยา บิล เกตส์ เป็นหนึ่งในรายชื่อผู้บริจาคสนับสนุนแฮร์ริส
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ผู้สนับสนุนแฮร์ริสแม้จะไม่ใช่คนใหญ่คนโต แต่ก็ถือเป็นคนส่วนใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลต่อแวดวงเทคโนโลยีสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน ซึ่งการเคลื่อนไหวที่สนับสนุนแฮร์ริสจากคนในวงการดังกล่าวชี้ให้เห็นว่านโยบายของแฮร์ริส ตลอดจนความสัมพันธ์อันยาวนานและเป็นมิตรของแฮร์ริสกับผู้บริหารระดับสูงหลายคนในโลกเทคโนโลยี ทำให้แฮร์ริสมีแนวโน้มจะเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในใจของชาวซิลิคอนแวลลีย์ได้ไม่ยาก
แอรอน เลวี ซีอีโอบริษัท Cloud Computing อย่าง Box ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างแท้จริงในซิลิคอนแวลลีย์ในการสนับสนุนแฮร์ริส ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับไบเดน โดยมุมมองของคนส่วนใหญ่ในสายเทคโนโลยี รวมถึงเลวีเอง เชื่อว่าแฮร์ริสมีความเข้าใจและซาบซึ้งต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่บรรดาคนสายเทคโนโลยีเผชิญอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และความสำคัญของบทบาทของเทคโนโลยีในอนาคตของเศรษฐกิจและประเทศ
ในขณะเดียวกัน ด้วยจุดยืนที่ชัดเจนในการกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยี ทำให้แฮร์ริสยังคงสามารถรักษาเสียงสนับสนุนจากสาธารณชนทั่วไป เพราะเห็นว่าแฮร์ริสไม่ได้เป็นมิตรกับเทคโนโลยีจนถึงกับยอมก้มหัวให้ เห็นได้จากผลงานที่ผ่านมา ที่แม้จะมีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับผู้นำในอุตสาหกรรม แฮร์ริสยังได้ผลักดันความรับผิดชอบด้านเทคโนโลยีในด้านสำคัญๆ อีกด้วย เช่น ในฐานะอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย แฮร์ริสได้ติดตามบริษัทเทคโนโลยีที่มีบทบาทในการล่วงละเมิดทางเพศ และมีส่วนสนับสนุนการแก้แค้นสื่อลามกทางออนไลน์ ขณะที่ในฐานะวุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย ในปี 2018 แฮร์ริสได้วิจารณ์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ในการไต่สวนภายหลังเรื่องอื้อฉาวของ Cambridge Analytica
นอกจากนี้ ในฐานะรองประธานาธิบดี แฮร์ริสมีบทบาทสำคัญในทำเนียบขาวในการสร้างมาตรการด้านความปลอดภัยสำหรับปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นผลกระทบต่อสังคมวงกว้างมากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยเมื่อปีที่แล้วแฮร์ริสได้พบกับผู้บริหารระดับสูงของ OpenAI, Google, Microsoft และ Anthropic ที่ Capitol Hill เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการด้านความปลอดภัยของ AI และวิธีเพิ่มความโปร่งใสระหว่างบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและรัฐบาล
ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดบวกกับมายด์เซ็ตที่เปิดกว้าง ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่าแฮร์ริสเป็นตัวเลือกที่เหมาะในเวลาที่ใช่ (The right person at the right time) โดย รีด ฮอฟฟ์แมน ผู้ก่อตั้ง LinkedIn และนักลงทุนด้านเทคโนโลยี ชี้ว่าภูมิหลังและความเป็นผู้นำของแฮร์ริสที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระ และปกป้องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทำให้แฮร์ริสมีคุณสมบัติที่จะยืนหยัดต่อสู้กับความสุดโต่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ยิ่งไปกว่านั้นแฮร์ริสยังเป็นหนึ่งในนักการเมืองรุ่นใหม่ของสหรัฐฯ ที่ตระหนักและเข้าใจว่าเทคโนโลยีสามารถสร้างความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ให้กับคนอเมริกันได้อย่างไร
ภาพ: Anadolu / Contributor / Getty Images
อ้างอิง: