จะเกิดอะไรขึ้นในอีก 30 ปีข้างหน้า ประชากรทั่วโลกจะมีอายุ 65 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้นถึง 1,600 ล้านคน สวนทางเด็กเกิดน้อยลง กระทบโครงสร้างเศรษฐกิจ ธุรกิจสินค้าอุปโภคเลิกผลิตผ้าอ้อมเด็ก เปลี่ยนไปพัฒนาผ้าอ้อมผู้ใหญ่รับดีมานด์ตลาดพุ่ง
สำนักข่าว CNN รายงานว่า ประชากรโลกกำลังแก่ตัวลง โดยในอีก 30 ปีข้างหน้า คนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นถึง 1,600 ล้านคนทั่วโลก สอดคล้องกับข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ระบุว่า ประเทศจีน ตามด้วยอินเดีย, สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น จะมีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุด โดยจะมีแค่แอฟริกาเท่านั้นที่มีประชากรผู้สูงอายุน้อยกว่า 15%
ทั้งนี้ เมื่อบริบทสังคมเปลี่ยนไปแล้ว แน่นอนว่าส่งผลกระทบในตลาดแรงงานโดยตรง โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากในประเทศจะมีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปจำนวนมากแล้ว วัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่นิยมแต่งงาน สร้างครอบครัว จนทำให้ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จำนวนเด็กแรกเกิดลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่เคยรวบรวมข้อมูลเมื่อ 120 ปีที่แล้วเลยทีเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘คนแก่ ไม่เท่ากับ คนแก่’ สิ่งที่แบรนด์ต้องตีโจทย์ให้แตกเพื่อจับตลาดกลุ่มผู้บริโภคสูงวัยในไทยที่มีกว่า 23 ล้านคน
- ส่องโครงสร้างประชากรโลกในอีก 3 ทศวรรษข้างหน้า เอเชียใต้จ่อโค่นบัลลังก์ เอเชียตะวันออก-อาเซียนมีนัยต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไร?
- คืบหน้า! เผ่าภูมิเผย เตรียมส่ง ‘สลากเกษียณ’ เข้าคลัง ชงเข้า ครม. ทันที หลังบอร์ด กอช. โหวตเห็นชอบแล้ว
จนทำให้ Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น จัดเตรียมงบประมาณมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ สนับสนุนให้ครอบครัวมีลูกมากขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขผลกระทบที่ตามมา เริ่มตั้งแต่กองทุนบำเหน็จบำนาญ และตลาดแรงงานที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก
ในทางกลับกัน ธุรกิจผ้าอ้อมผู้ใหญ่กลับได้รับอานิสงส์ดังกล่าว สะท้อนได้จากภาพรวมตลาดผ้าอ้อมผู้ใหญ่ทั่วโลกในปี 2023 มีมูลค่าอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยศูนย์วิจัยตลาด Euromonitor International คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2026
เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดผ้าอ้อมผู้ใหญ่ในญี่ปุ่นที่มีมูลค่าอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตเป็น 1.9 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2026 เช่นกัน โดยสัดส่วนตลาดในญี่ปุ่นมากกว่า 12% ของมูลค่าตลาดรวมทั่วโลก
ขณะที่ตลาดผ้าอ้อมเด็กเริ่มชะลอตัว ทั้งญี่ปุ่น, จีน, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ทำให้หลายๆ บริษัท รวมถึง Oji Holdings ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้าอ้อมเด็ก ต้องปรับตัวหันมาพัฒนาสินค้าเกี่ยวกับผู้สูงอายุแทน ไม่เว้นแม้แต่ Panasonic ยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ ก็ได้เริ่มศึกษาหาแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเป้าเจาะประชากรสูงอายุ
รวมถึง Zojirushi ผู้ผลิตเครื่องใช้ในครัว ได้เปิดตัวกาน้ำชาไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันที่สามารถลงทะเบียน เปิดให้ญาติๆ สามารถติดตามผู้สูงอายุได้
ทั้งหมดทำให้เห็นว่าญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศเดียวที่กังวลต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่เกาหลีใต้, ฮ่องกง, จีน และไต้หวัน ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวตามไปด้วย
อ้างอิง: