×

สหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีได้ เราก็ทำได้เช่นกัน! ‘อินโดนีเซีย’ ตั้งการ์ดสูงสกัดสินค้าจีนทะลัก จ่อเก็บภาษี 200% รัฐบาลประกาศลั่น ขอปกป้องธุรกิจ SME

02.07.2024
  • LOADING...

สมรภูมิสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน (Trade War) และภูมิรัฐศาสตร์ ร้อนแรงต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนหลายรายการ เมื่อบวกกับอุปทานจีนที่ล้นตลาด ส่งผลให้จีนหันมองตลาดอาเซียนที่มีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเป็น 0% เพื่อระบายสินค้า

 

ที่ผ่านมาจึงทำให้สินค้าจากจีนที่ทะลักเข้ามายังเพื่อนบ้านและไทยเอง จนทำให้ปีที่แล้วไทยขาดดุลกับจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเร็วๆ นี้จึงจะเห็นว่ารัฐบาลพยายามออกมาตรการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 7% จากการนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท

 

ล่าสุดอินโดนีเซียก็ออกมาประกาศว่า มีแผนกำหนดมาตรการทางภาษีสินค้านำเข้า (Safeguard Duties) ในอัตรา 100-200% เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กๆ อย่างธุรกิจ SME

 

Zulkifli Hasan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียเตรียมกำหนดภาษีสินค้านำเข้า (Safeguard Duties) ในอัตรา 200% สำหรับการนำเข้าสินค้าหลายรายการ ตั้งแต่สินค้ารองเท้าไปจนถึงสินค้าเซรามิกเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยเบื้องต้นจะกำหนดภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่ผลิตจากจีนอยู่ที่ 100-200%

 

โดยมาตรการเรียกเก็บภาษีนี้จะมีผลบังคับใช้เร็วๆ นี้ ซึ่งอาจกระทบต่อการนำเข้าสินค้ารองเท้า เสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องสำอาง และเซรามิก

 

“หากเราปล่อยให้มีการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก จะกระทบผู้ประกอบการรายย่อย รายเล็ก และขนาดกลาง ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจรายเล็กๆ ล่มสลายได้” Zulkifli กล่าว ทั้งนี้ ปัจจัยหลักๆ มาจากสงครามการค้า (Trade War) ทำให้เกิดอุปทานล้นตลาดในจีน และการปฏิเสธสินค้าจากจีนของกลุ่มประเทศแถบตะวันตก ส่งผลให้จีนต้องระบายสินค้าออกไปยังตลาดอื่นๆ มายังอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

“ดังนั้นหากสหรัฐฯ สามารถกำหนดอัตราภาษี 200% สินค้าเซรามิกหรือเสื้อผ้านำเข้าได้ เราก็สามารถทำได้เช่นกัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม ธุรกิจภาค SME ในประเทศจะต้องอยู่รอด” Zulkifli กล่าว

 

ด้าน Budi Santoso เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า คณะกรรมการปกป้องการค้าอินโดนีเซียอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อกำหนดอัตราภาษีสินค้าต่างๆ

ขณะที่สำนักงานสถิติระบุว่า สินค้านำเข้ามายังอินโดนีเซียส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับมาจากจีน เวียดนาม และบังกลาเทศ ซึ่งปีนี้มูลค่าการนำเข้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก โดยเดือนมกราคมมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 12.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น 23.98 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม

 

สำหรับอินโดนีเซีย ถือเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออกมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้านำเข้ามากกว่า 3,000 รายการ ตั้งแต่วัตถุดิบอาหารไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเคมีภัณฑ์

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X