×

เลขาฯ กกต. ระบุ คำร้องไม่ส่งผลต่อไทม์ไลน์ เผยจับกลโกงไม่ง่าย เหตุคนทำผิดมีทั้งอำนาจ-ทุน-ทักษะ-ความรู้

โดย THE STANDARD TEAM
24.06.2024
  • LOADING...

วันนี้ (24 มิถุนายน) แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดการอบรมคณะกรรมการประจำสถานที่เลือก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย และผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงาน ของผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศ ก่อนที่จะมีการเลือก สว. ระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

 

แสวงกล่าวว่า การเลือก สว. ผ่านมาแล้วทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัด ซึ่งการเลือกระดับประเทศจะมีคณะกรรมการประจำสถานที่เลือกผสมกันระหว่างส่วนกลางและระดับจังหวัด 20 จังหวัด เชื่อว่าประสบการณ์ที่ผ่านมา แม้ในระดับอำเภอจะขลุกขลักอยู่บ้าง ระดับจังหวัดเริ่มเรียบร้อย แต่ในระดับประเทศน่าจะดีขึ้น และหากดูจากคำร้องในวันที่มีการเลือกในระดับอำเภอ และระดับจังหวัดมี 39 เรื่อง ถือว่าไม่มาก แต่ก็ได้กำชับว่าระเบียบต้องแม่นยำ และต้องบริหารเวลาให้ได้ หากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งช้าก็จะทำให้กลุ่มอื่นช้าไปด้วย พร้อมย้ำว่า ต้องปฏิบัติด้วยท่าทีเป็นมิตร หากชี้แจงแล้วตกลงไม่ได้ ให้ใช้วิธีวินิจฉัย และให้สิทธิทำคำทักท้วงไว้

 

ไม่กังวลล้มเลือก สว. ตั้งเป้าให้ได้ 200 คน

 

แสวงยังระบุว่า ไม่กังวลกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะใช้ช่องว่างทางกฎหมายล้มการเลือก สว. แต่ในฐานะผู้รับผิดชอบกระบวนการเลือก สว. ก็จะต้องดำเนินให้เป็นไปตามเป้าหมาย ตั้งแต่การเลือก สว. ให้ได้ครบจำนวน 200 คน เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด การรักษากระบวนการให้เป็นไปตามกฎหมาย หากกระบวนการมีปัญหา อาจมีผู้ไปร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จึงต้องพยายามบริหารสถานการณ์และปิดช่องว่างเหล่านี้

 

จับกลโกงไม่ง่าย

 

ส่วนที่พบกลโกงว่ามีการรับจ้างสมัคร จ่ายเงินให้ลงคะแนน แสวงระบุว่า ที่พูดมานั้นผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องพวกนี้ไม่ง่าย เพราะคนที่มีความรู้นั้นทำผิดก็จะมีทั้งอำนาจ ทุน ทักษะ และความรู้ โดยเฉพาะเป็นเรื่องการเมืองก็จะมีเรื่องเครือข่ายเพิ่มเข้ามา และในทุกประเทศก็จะมีแบบนี้ เพียงแต่ว่าข้อมูลที่ กกต. รับมา มีทั้งเบาะแสและผู้ร้องเรียน จะต้องดำเนินการภายใน 2-3 วันนี้ พร้อมย้ำว่า การรับจ้างสมัคร ให้เงิน ให้ทรัพย์สิน ให้ผลประโยชน์ ถือเป็นเรื่องที่มีความผิด ซึ่งทาง กกต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมดำเนินการในการป้องปรามและจับกุม

 

คนรับผิดชอบประเทศต้องเคารพกฎหมาย

 

เมื่อถามถึงกรณีต้องจับตาโรงแรมที่ผู้สมัคร สว. พักเป็นพิเศษหรือไม่ แสวงระบุว่า โรงแรมที่ใกล้กับสถานที่เลือกตั้ง สว. ระดับประเทศนั้นมีไม่เยอะ และมีผู้สมัครจองจนเต็มแล้ว แต่จะมีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องต้องดูแล ย้ำว่า กกต. ทำงานอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้สมัคร หากจะไปรับผิดชอบประเทศชาติก็ขอให้เคารพกฎหมาย

 

แสวงระบุต่อว่า ยืนยันว่าข้อร้องเรียนต่างๆ ไม่ส่งผลกระทบต่อไทม์ไลน์การประกาศผลเลือก สว. และเปิดเผยว่า ความผิดมี 3 กลุ่ม 333 เรื่อง โดย 200 เรื่องเกี่ยวกับคำร้องคุณสมบัติ และการสมัครผิดกลุ่ม กรณีรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิ ซึ่งทางศาลฎีกา และ กกต. ได้วินิจฉัยไปบ้างแล้ว เช่น การลงสมัครผิดกลุ่ม เนื่องจากเป็นปัญหาในข้อกฎหมาย ส่วนคำร้องในกลุ่มที่ 2 เกี่ยวกับกระบวนการในการเลือก ซึ่งผ่านมาแล้ว 2 ระดับ มีผู้ร้องเรียน 39 คำร้อง โดย กกต. จะพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกระดับถัดไป และส่วนที่ 3 เกี่ยวกับเรื่องความไม่สุจริต มี 90 เรื่อง ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการสืบสวน

 

แสวงกล่าวว่า ผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว. จะต้องเป็นกลาง ขณะเดียวกันกฎหมายก็กำหนดห้ามไว้ ห้ามนักการเมืองช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัคร สว. และผู้สมัคร สว. ก็ห้ามให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาช่วยเพื่อให้ได้รับเลือก ทั้งห้ามบริหารจัดการ หรือห้ามจัดตั้ง หรือให้ทรัพย์สินประโยชน์อื่นใด ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย แต่ในทางการเมืองก็ไม่ง่าย เพราะเรียกว่าสมยอม สมประโยชน์กัน ทำให้ กกต. ทำงานยากขึ้นในการจับกุม

 

คดีทุจริตต้องให้ความเป็นธรรม 2 ฝ่าย

 

แสวงยังเปิดเผยว่า คำร้องเกี่ยวกับการเลือก สว. ครั้งนี้มีจำนวนน้อย เมื่อเทียบสัดส่วนการเลือกตั้ง สส. อย่างไรก็ตาม เมื่อเกี่ยวกับกรณีความปรากฏในคดีทุจริต จะต้องใช้เวลา และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

 

“เมื่อมีการกล่าวหาว่าเขาให้เงินให้ทองกัน หรือให้ทรัพย์สินประโยชน์อื่นใด หรือแลกตำแหน่ง โดยบอกว่าให้มาอยู่ทีมเดียวกันเมื่อผมได้เป็นวุฒิสภา ได้เป็นกรรมาธิการ จะได้เป็นผู้ช่วย สว. หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ นี่คือการให้ประโยชน์กัน แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา เรื่องนี้ต้องใช้เวลา กฎหมายออกแบบไว้หมดแล้ว ไม่กระทบไทม์ไลน์แน่นอน” แสวงกล่าว

 

ย้ำไม่ให้ประท้วง ทำเสียเวลา

 

นอกจากนี้แสวงยังกล่าวถึงกระบวนการเลือก สว. ระดับประเทศว่า จะไม่มี จะไม่ให้ทักท้วง และจะไม่ให้เสียเวลา จากคนที่ชอบประท้วง โดยแนวทางแรกจะชี้แจงก่อน แต่หากไม่จบ ก็จะให้ กกต. วินิจฉัย และหากยังไม่จบ จะให้ผู้สมัครไปใช้สิทธิการเขียนแบบคัดค้านทักท้วง หรือยื่นร้องต่อศาลฎีกา หรือยื่นต่อ กกต.

 

“อย่ามาต่อล้อต่อเถียงให้คนอื่นเสียเวลา คุณจะไปใช้สิทธิที่ไหนต่อก็ได้ แต่ไม่ใช่ใช้เวทีนี้ เพื่อประโยชน์อะไรผมไม่รู้ แต่คุณก็สามารถรักษาสิทธิของคุณได้ โดยคุณอย่าทำให้คนอื่นเสียเวลา” แสวงกล่าว

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising