วานนี้ (18 มิถุนายน) สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้อง ผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสอง ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีสามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้
ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสอง ดังกล่าว ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญตามมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสาม วรรคตาม และกำหนดบังคับให้คำวินิจฉัยมีผลเมื่อพ้น 360 วันนับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง วรรคสาม ระบุว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพ และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลจะกระทำมิได้
สิทธิชาย-หญิง ไม่เท่าเทียม
พ.ต.ท. กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะหน่วยงานที่ยื่นคำร้องชี้แจงว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรคสอง มีปัญหาในข้อกฎหมายเพราะบัญญัติไว้ว่า สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้
ชู้ภรรยาไม่กำหนดเพศ ไม่เปิดเผยตัวตน
จากบทบัญญัติดังกล่าวเท่ากับว่า สามีจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชู้เพศใดก็ได้ โดยไม่ต้องพิจารณาว่าภริยาจะสมัครใจหรือไม่ และไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่าเป็นการแสดงความสัมพันธ์โดยเปิดเผยหรือไม่
ชู้สามีต้องเป็นหญิง แอบกินเปิดเผย
ในขณะที่หากเป็นฝ่ายภรรยา จะเรียกร้องค่าทดแทนจากคนที่มาเป็นชู้กับสามีของตน ฟ้องได้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายที่มาเป็นชู้กับสามีตนภรรยาฟ้องไม่ได้
อีกทั้งถ้าชู้ของสามีเป็นหญิงยังมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นหญิงที่แสดงความสัมพันธ์ในทางชู้สาวโดยเปิดเผย ถ้าคบกันหลบๆ ซ่อนๆ ไม่เปิดเผยจะไปเรียกค่าทดแทนไม่ได้
ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยแล้วเห็นว่า บทบัญญัติดังกล่าวขัดกับรัฐธรรมนูญที่กำหนดว่าบุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างในเรื่องเพศจะกระทำมิได้ จึงส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ครบ 360 วัน ฟ้องชู้ไร้ข้อจำกัด
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไขข้อกฎหมายตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร เมื่อครบ 360 วันจะส่งผลให้สามารถฟ้องชู้เพศเดียวกันของสามีได้ตามคำวินิจฉัยของศาล
ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม แก้สิทธิชาย-หญิง ไม่เท่าเทียมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม มาตรา 49 ที่เพิ่งผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาวันนี้ ได้ระบุยกเลิกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 ทั้งมาตราแล้ว โดยระบุให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516 (1) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง และจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น
“คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไปในทำนองชู้ หรือจากผู้ซึ่งแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งในทำนองชู้ก็ได้”
ทั้งนี้ เป็นการแก้ไขคำจากผู้ซึ่งล่วงเกินสามี/ภรรยา (ชู้) เป็นผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรส เพื่อให้ครอบคลุมทุกเพศตามหลักการของกฎหมายสมรสเท่าเทียม