×

WHO เผย ผู้ป่วยไข้หวัดนก H5N2 ในเม็กซิโกเสียชีวิตแล้ว พร้อมย้ำความเสี่ยงในการแพร่ระบาดยังอยู่ระดับต่ำ

06.06.2024
  • LOADING...

องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า ผู้ป่วยชายที่ติดเชื้อไข้หวัดนก H5N2 ในเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวงของเม็กซิโก เสียชีวิตแล้ว หลังมีโรคประจำตัวและตรวจพบอาการแทรกซ้อน เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าความเสี่ยงในการแพร่ระบาดในมนุษย์ยังอยู่ระดับต่ำ

 

WHO ยังเผยอีกว่า ผู้ป่วยชายวัย 59 ปีคนนี้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ ไตวายเรื้อรัง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา และเสียชีวิตในวันเดียวกัน หลังตรวจพบการติดเชื้อ มีไข้ หายใจลำบาก ท้องเสีย และมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย นับเป็นการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิด A (H5N2) ในมนุษย์รายแรกที่ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการทั่วโลก

 

แอนดรู เปคอสซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไข้หวัดใหญ่จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า โรคประจำตัวทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะมีอาการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้น แต่คำถามที่สำคัญกว่าคือ ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อไข้หวัดนก H5N2 ได้อย่างไร

 

เบื้องต้น WHO ระบุว่า ยังไม่ทราบแหล่งที่มาของการสัมผัสกับเชื้อไวรัส แม้จะมีรายงานตรวจพบการติดเชื้อ A (H5N2) ในสัตว์ปีกของประเทศเม็กซิโก โดยเฉพาะฟาร์มไก่แห่งหนึ่งในรัฐมิโชอากันที่อยู่ติดกับรัฐเมฮิโก ซึ่งเป็นรัฐที่ผู้ป่วยชายคนนี้อาศัยอยู่ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ยังไม่สามารถสรุปความเชื่อมโยงที่แน่ชัดได้

 

กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโกยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในหมู่ประชากร โดยผลการทดสอบทั้งหมดของบรรดาผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตเป็นลบ ตรวจไม่พบการติดเชื้อดังกล่าวแต่อย่างใด

 

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า มีการตรวจพบการติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ใกล้เคียงอย่าง A (H5N1) ในฟาร์มวัวนมสหรัฐฯ ในขณะนี้ โดยการติดเชื้อชนิดนี้ในมนุษย์ยังพบได้ไม่บ่อยมากนัก นอกจากนี้ยังพบรายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วย 18 คนในจีน ระหว่างที่มีการระบาดของไข้หวัดนกชนิด A (H5N6) เมื่อปี 2021

 

เปคอสซ์ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา เชื้อไวรัสในตระกูล H5 มีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่าไวรัสไข้หวัดนกชนิดอื่นๆ ดังนั้นการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ของเชื้อไวรัสจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะทุกครั้งที่เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส นั่นคือโอกาสที่จะทำให้ไวรัสกลายพันธุ์จนอาจแพร่เชื้อในมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น

 

แฟ้มภาพ: Dado Ruvic / Illustration / File Photo via Reuters

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X