จับตาหุ้นเทคโนโลยีจะยังเป็นที่โปรดปรานมากที่สุดของ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ซีอีโอ Berkshire Hathaway อยู่ไหม? หลังเทขายหุ้น Apple อีกประมาณ 13% ในไตรมาสแรกของปี นั้นอาจเป็นการเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Berkshire Hathaway รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก มีกำไรเพิ่มขึ้น 39% ส่วนใหญ่มาจากแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจประกันภัย และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังได้ลดสัดส่วนถือหุ้นใน Apple ลง ด้วยการขายหุ้น Apple ประมาณ 13% ส่งผลให้บริษัทเหลือสัดส่วนการถือหุ้นในผู้ผลิต iPhone อยู่ที่ 22% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.3 แสนล้านดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เรียกได้ว่าบริษัทขายหุ้น Apple สองไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทตัดสินใจขายหุ้น Apple ประมาณ 1% ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ให้คำชมทีมผู้บริหาร Apple ในงานประชุมประจำปีมาโดยตลอด จนถึงขั้นบอกว่า Apple เป็นธุรกิจที่ดีกว่าธุรกิจอื่นๆ ในพอร์ตของเรา
“สะท้อนให้เห็นว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ อาจเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ โดยตัวเขาย้ำเสมอว่า เงินลงทุนส่วนใหญ่ของ Berkshire จะถูกนำไปลงทุนอย่างดีที่สุด”
สอดคล้องกับขณะนี้ Apple เผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ปัจจุบัน Apple ถือส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 17.3% เริ่มมียอดขายลดลงอย่างมาก เห็นได้จากในไตรมาสแรกของปี 2024 Apple จัดส่ง iPhone ประมาณ 50.1 ล้านเครื่อง ลดลงจาก 55.4 ล้านเครื่อง ถ้าเทียบกับการจัดส่งในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะตลาดจีนที่หดตัว 2.1%
แม้ ทิม คุก ซีอีโอของ Apple จะออกมาชี้แจงว่า ยอดขาย iPhone ที่ลดลงมาจากฐานที่สูงในปีก่อนจากการขาดซัพพลายทำให้ผลิตสินค้าไม่ทัน ซึ่งหากตัดส่วนดังกล่าวที่มีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐออกไป ยอดขาย iPhone ก็เพิ่มขึ้น แต่ทั้งหมดสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน และหลายคนปรับลดระดับการถือหุ้นดังกล่าวลง
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ Apple เท่านั้นที่ถูกขาย โดยที่ผ่านมาบริษัทยังเทขายหุ้นอีก 4 ตัว ได้แก่ D.R. Horton, บริษัทประกันภัย Globe Life, บริษัทประกันภัยและการลงทุน Markel และหน่วยประมวลผลบัตรเครดิตของบราซิล StoneCo หลังจากถือหุ้นมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
อ้างอิง: