เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าปราบปรามนักศึกษาที่มาชุมนุมในหลายมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกาวานนี้ (2 พฤษภาคม) รวมถึงมีการเคลียร์พื้นที่ตั้งเต็นท์ชุมนุมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส หรือ UCLA หลังตลอดไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ ออกมารวมตัวประท้วงเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ พร้อมเรียกร้องให้ยุติการทำสงครามในฉนวนกาซา
ในช่วงก่อนรุ่งสาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเคลียร์พื้นที่ ซึ่งกลุ่มนักศึกษาได้ตั้งเต็นท์ปักหลักประท้วงกันในมหาวิทยาลัย UCLA มานานหลายวัน โดยมีการใช้ระเบิดแสงและอุปกรณ์ปราบจลาจลให้สามารถฝ่าแนวกั้นของกลุ่มผู้ประท้วงที่ประสานมือกันแน่นเพื่อพยายามหยุดยั้งเจ้าหน้าที่ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีนักศึกษาใน UCLA ถูกจับ 210 คนด้วยกัน นอกจากนี้ตำรวจยังจับกุมนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอื่นๆ ด้วยอีกหลายร้อยคน
สถานการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาบรรดานักศึกษาได้ออกมาชุมนุมประท้วงหรือตั้งเต็นท์ปักหลักกันในมหาวิทยาลัยหลายแห่งเพื่อเรียกร้องให้ยุติสงครามในฉนวนกาซา โดยผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งปัจจุบันออกโรงสนับสนุนสิทธิ์ของอิสราเอลในการปกป้องตนเอง ดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อยุติสงคราม พร้อมเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยเลิกสนับสนุนบริษัทที่ช่วยรัฐบาลอิสราเอล
หลังจากที่มีการปราบกลุ่มผู้ชุมนุม ไบเดนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ชาวอเมริกันมีสิทธิ์ที่จะชุมนุมประท้วง แต่ต้องไม่ให้เกิดความรุนแรง “การทำลายทรัพย์สินไม่ใช่การประท้วงที่สงบ สิ่งนี้ผิดกฎหมาย มีการก่อกวน บุกรุก ทำลายหน้าต่าง ต้องปิดมหาวิทยาลัย บีบให้ต้องยกเลิกชั้นเรียนและพิธีจบศึกษา สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การประท้วงอย่างสันติ”
อ้างอิง: