วันนี้ (23 เมษายน) พิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชื่อตนเองเป็นรัฐมนตรี โดยระบุว่า วันนี้ต้องให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี เพราะได้รับการบอกกล่าวมาหลายทางว่าให้ตนมาให้กำลังใจในเวลานี้ให้ท่านมีสมาธิในการทำงาน ในส่วนของตนเองนายกฯ ได้มอบหมายงานให้ทำอยู่แล้ว ก็ยังมีความสุขในการทำงาน ไม่อยากคิดอะไรตรงนี้ เพราะเป็นคนทำงาน อยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานได้หมด และขอให้เกียรติและให้กำลังใจรัฐมนตรีทุกคนที่ยังทำงานอยู่ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมหรือไม่ พิชิตกล่าวว่า รอให้นายกฯ พูดดีกว่า เพราะเป็นอำนาจของท่าน และเรื่องการให้กำลังใจไม่เกี่ยวกับแรงกระเพื่อมหรือการปรับ ครม. แต่เป็นการให้กำลังใจในเรื่องการทำงานมากกว่า เพราะนายกฯ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำงาน หรือมีข่าวอะไรที่อาจจะเกิดผลกระทบกับท่าน กรณีที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวหาว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เรื่องนี้ท่านเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดิน ท่านไม่มีเวลาคิดที่จะไปกลั่นแกล้งใคร
พิชิตยังกล่าวว่า เรื่องของคดีให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. เราไม่ไปก้าวล่วง ซึ่งนายกฯ บริสุทธิ์อยู่แล้ว เรื่องคดีอาญาท่านไม่ได้แกล้ง ถามว่ามีเหตุผลหรือแรงจูงใจอะไรที่นายกฯ จะไปกลั่นแกล้งใคร แต่ถือว่าเป็นสิทธิของเขาที่จะใช้สิทธิตามกฎหมาย แต่เราต้องดูพฤติกรรมในหลายเรื่อง ส่วนกรณีที่มีอดีตตำรวจให้ความเห็นว่าหาก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ไม่พอใจการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ให้ไปร้อง ป.ป.ช. นั้น เห็นว่าเรื่องนี้มันนานมาแล้ว ซึ่งอยากให้ช่วยกันพิจารณา แล้วปัจจุบันนี้ปัญหาสังคมก็เกิดขึ้นมากมาย เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม ตนคิดว่านายกฯ คิดเรื่องพวกนี้มากกว่า ท่านไม่ยึดติดเรื่องตัวบุคคล เอาเรื่องงานเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทนายของฝั่ง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ค่อนข้างมีชื่อเสียง กังวลหรือไม่หากในอนาคตจะต้องไปต่อสู้คดีกัน พิชิตกล่าวว่า อย่าไปคิดอะไรมาก เพราะสุภาษิตกฎหมายบอกว่า ไปศาลก็ไปด้วยความสุจริต และเชื่อว่านายกฯ ก็ยังไม่คิดเรื่องนี้ ท่านคิดแต่ว่าจะบริหารประเทศชาติอย่างไรให้เป็นไปด้วยความราบรื่น สามารถทำตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ทุกอย่างวัดกันที่วัคซีนการทำงาน และเชื่อว่านายกฯ ไม่ได้หนักใจ เพราะไม่ได้คิดแกล้งใคร
เมื่อถามว่า จากประสบการณ์ต่อสู้คดี ดูคำร้องของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ แล้วมีอะไรน่าหนักใจหรือไม่ พิชิตกล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม การใช้สิทธิตามกระบวนการยุติธรรมถือเป็นเรื่องดี แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะมากล่าวหานายกฯ
เมื่อถามย้ำว่า มองอย่างไรที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ มาร้องเรียนนายกฯ ในช่วงนี้ พิชิตกล่าวว่า คงไปตอบแทน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ไม่ได้ ส่วนที่มีคนมองว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ โดนกระทำฝ่ายเดียวจึงไปร้องเรียนทุกคนที่เกี่ยวข้องนั้น ให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ตอบเองดีกว่า
