รัฐบาลทหารเมียนมาและกองทัพกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลังพ่ายแพ้การสู้รบครั้งใหญ่ให้กับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยง หรือ ‘กลุ่ม KNU’ จนสูญเสียการควบคุมพื้นที่บริเวณ ‘เมียวดี’ เมืองชายแดนด้านตะวันออกซึ่งติดกับประเทศไทย
ทหารเมียนมาจำนวนหลายร้อยนายที่ประจำอยู่ที่เมืองชายแดนแห่งนี้ประกาศยอมจำนนต่อกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารแล้ว นับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของรัฐบาลทหาร หลังกองทัพถอยร่นและถูกขับออกจากพื้นที่ตามแนวชายแดนรัฐฉานซึ่งติดกับประเทศจีน และรัฐยะไข่ใกล้กับชายแดนบังกลาเทศเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ทหารเมียนมาเสียชีวิตจำนวนมาก และบางส่วนยอมแปรพักตร์มาสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหาร ทำให้กองทัพเมียนมาเริ่มขาดแคลนกำลังพลจนต้องเกณฑ์ทหารเพื่อชดเชยความสูญเสีย
กลุ่ม KNU ถือเป็นกลุ่มกองกำลังที่ต่อสู้เพื่อสิทธิในการปกครองตนเองของชาวกะเหรี่ยงมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่เมียนมาได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรเมื่อปี 1948 และพ่ายแพ้ให้กับกองทัพเมียนมาหลายต่อหลายครั้ง จนนำไปสู่การทำข้อตกลงหยุดยิงในปี 2015
เหตุรัฐประหารเมียนมาเมื่อปี 2021 ทำให้กลุ่ม KNU มองว่าการโค่นล้มรัฐบาลเมียนมาที่มาจากการเลือกตั้ง ภายใต้การนำของ ออง ซาน ซูจี เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรม พร้อมประกาศให้ข้อตกลงหยุดยิงเป็นโมฆะ โดยกลุ่ม KNU ได้ประสานความร่วมมือกับกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์อีกหลายกลุ่ม เพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาที่ยังไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชนและยังคงครองอำนาจนำในการบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้
ภาพ: Stringer / File Photo via Reuters
อ้างอิง: