เพื่อนเป็นสายโยคะ ตัวเองเป็นสายเวต อีกคนสาย HIIT แบบฮาร์ดคอร์ เวลาออกกำลังเลยต้องแยกไปกันคนละที่ แก๊งเพื่อนแก๊งไหนที่กำลังเป็นแบบนี้ แต่อยากหายิมที่มีทุกอย่างครบจบ ไปด้วยกันได้แบบไม่ต้องเหงา เราอยากชวนให้มาทำความรู้จักกับบูติกยิมย่านเอกมัยที่ WOLF Wellness & Training
What is it?
ก่อนจะเดินเข้าไปยังพื้นที่ในยิมเราจะต้องถอดรองเท้ากันก่อน เพราะที่นี่เน้นการฝึกแบบ Barefeet เพื่อเสริมการทำงานของข้อต่อและกล้ามเนื้อมัดเล็ก
พอเดินเข้ามาในตัวยิมแล้วก็เป็นต้องตกใจเล็กน้อยกับเสียงเพลงดังตึบเหมือนอยู่ในคลับ พอเหลือบมองไปยังต้นเสียงก็เห็นเครื่อง DJ ตั้งเด่นพร้อม หนึ่งใน Founder ผู้รับบทดีเจมิกซ์เพลงกันสดๆ
หนึ่งใน Founder ของที่นี่เล่าให้เราฟังว่า ไอเดียในการสร้างยิมแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากเพนพอยต์ของกลุ่มคนที่อยู่ในวงการฟิตเนส ที่เห็นตรงกันในเรื่องของการขาดความเป็นคอมมูนิตี้ ต่างคนต่างออกกำลังแล้วแยกย้ายกลับ ยิมบางที่ก็ไม่ได้มีทุกอย่างครบจบในที่เดียว ทำให้ต้องแยกไปเล่นหลายๆ ที่
WOLF เลยถือกำเนิดขึ้นเพื่อให้เป็นบูติกยิมที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของคอมมูนิตี้ และยังเป็นยิมที่รวบตึงการเวิร์กเอาต์หลากหลายสไตล์ไว้ในที่เดียว โดยแบ่งเป็นโซน Sun Space สำหรับเวตเทรนนิ่ง, HIIT, CrossFit
ส่วน Moon Room จะเป็นโซนสำหรับ Meditation ที่มีทั้งคลาสยืดเหยียดต่างๆ และ Sound Healing อีกด้วย ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่ายิมทำโซน Sun & Moon ตามหลักหยิน-หยางและความเชื่อที่ว่า ‘ทุกอย่างต้องบาลานซ์’
“เราอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นที่บังเอิญมียิมที่ดูดี มีห้องสำหรับฝึกสมาธิและจิตใจ เพราะการฝึกแบบใดแบบหนึ่งไปเลยก็ไม่ดี ถ้าแข็งแรงแต่ไม่ยืดหยุ่นเลยก็บาดเจ็บ
“เราอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนบ้านเพื่อนที่ให้คนมาแฮงเอาต์กับเราได้ มาแชร์ประสบการณ์ด้วยกัน พูดคุยกัน ก่อนหน้านี้เราก็มีชวนเมมเบอร์ไปกินบาร์บีคิวกันที่บ้านด้วย เราทรีตเมมเบอร์แบบ Friends & Family” ทีม WOLF กล่าว
นอกจากนี้ที่นี่ยังมี Ice Bath คุมอุณหภูมิไว้ที่ 0 องศาให้บริการอีกด้วย เรียกว่าใครที่ออกกำลังหนัก และอยากฟื้นฟูร่างกายก็สามารถรับบริการที่นี่ได้เช่นกัน
แช่ตัวเสร็จก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องตัวเปียกฉ่ำกลับบ้าน ที่นี่มีห้องอาบน้ำและล็อกเกอร์บริการให้เสร็จสรรพในตัว
Try
จากการกวาดตาส่องคลาสที่ WOLF แล้ว เราไปสะดุดตากับคลาสที่ชื่อ ‘HOWL CORE’ ซึ่งเป็นชื่อที่รวมเสียงร้องของหมาป่า และ CORE ที่แปลว่ากล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเข้าไว้ด้วยกัน เลยเดาได้เลยว่าคลาสนี้จะต้องทำให้เราได้ฟิตกล้ามท้องฉ่ำชนิดที่ต้องร้อง ‘Howl’ แน่ๆ
ไม่รอช้า โค้ชมายด์นำทีม LIFE เข้าสู่ Introduction ของคลาส เริ่มจากการยืดเหยียดใน Part A ซึ่งส่วนสำคัญของร่างกายที่เราหลายคนมักจะมองข้ามคือ ‘ข้อมือ’ ทุกวันนี้เราใช้ข้อมืออย่างหนักหน่วงไปกับการใช้สมาร์ทโฟนและการนั่งทำงานติดโต๊ะ เพียงการยืดข้อมือท่าแรกก็ทำเอาใครหลายคนโอดครวญกันซะแล้ว
ต่อด้วยการเริ่ม Activate กล้ามเนื้อหน้าท้องด้วยท่า Cobra, Superman, Glute Bridge, Side Plank รวมถึง Plank ที่เพิ่มชาเลนจ์ด้วยการวางศอกแล้วยันแขนกลับขึ้นมา Plank ใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการทำตามจังหวะเพลง ไม่ช้าและไม่เร็วเกินไป ทำให้ได้โฟกัสกล้ามเนื้อแกนกลางแบบเต็มๆ
หลังอุ่นเครื่องไปในพาร์ตแรกแล้วก็ถึงเวลาของการเพิ่ม Heart Rate เริ่มแรกโค้ชมายด์จะให้จับคู่โดยการแบ่งกลุ่มตามสีโปรดของตัวเอง จากนั้นก็จับมือกันไปทำภารกิจในแต่ละสเตชัน โดยจะเวิร์กเอาต์ทั้งหมด 2 รอบ เริ่มจาก Wolf Run ซึ่งเป็นท่าเดียวกับ Bear Crawl ท่าหมีคลาน ที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อช่วงแขน ขา และท้อง ไปพร้อมๆ กัน
ดูเหมือนจะง่าย แต่ถ้าลองโฟกัสให้มือและขาสัมพันธ์กันขณะคลาน กดลำตัวให้ต่ำและเกร็งหน้าท้องไว้แน่นๆ จะสัมผัสได้ถึงความร้าวไปทุกส่วนเลยละ
ฝึกบาลานซ์ต่อกันด้วย Farmer Carry ถือ Kettlebell สองข้างแล้วเดินไป-กลับ โดยพยายามเกร็งหน้าท้องและทรงตัวไว้ตลอด หากใครที่อยากชาเลนจ์ตัวเองก็สามารถเพิ่มน้ำหนักได้เช่นกัน
Sync Knee to Chest ท่าปราบเซียนที่ช่วยสร้างกล้ามท้องได้เป็นอย่างดี และยังได้ท้าทายความฟิตของกล้ามเนื้อ Upper Body อีกด้วย
เล่นหน้าท้องแล้วก็ต้องเล่นกล้ามเนื้อมัดตรงข้ามและส่วนอื่นเพื่อสร้างบาลานซ์อย่าง GDH หรือ Glute Ham Developer ท่าเดียวที่ได้บริหารครบทั้งกล้ามเนื้อด้านหลัง ก้น และแฮมสตริง หากใครไม่เคยทำท่านี้อาจมีความกลัวหน้าทิ่มเล็กน้อย จุดที่สำคัญคือการล็อกเท้าไว้ให้แน่น และเกร็งหน้าท้องไว้เสมอ
อย่างที่บอกว่าเราจับคู่เล่นเป็นบัดดี้ Russian Twist แบบเดิมๆ เลยสนุกยิ่งขึ้น (เมื่อมีคนร่วมทรมานไปด้วย) เวิร์กเอาต์นี้เราจะต้องยกขาคู่ หากยกไม่ไหวก็สามารถวางราบกับพื้นได้ เอนตัวไปด้านหลัง เกร็งท้อง จับบอลแตะพื้นให้ครบทั้งสองข้างแล้วจึงส่งบอลให้เพื่อน ทำสลับกันไปจนครบเวลา
และสเตชันสุดหรรษาสุดท้าย Squat Duo สเตชันนี้จะต้องใช้ความสามัคคีเป็นพลังเป็นพิเศษ เพราะหน้าที่ของแต่ละคนคือการสวม Resistance Bands แล้วอยู่ในท่า Squat จากนั้นพยายามก้าวออกด้านข้างต้านแข่งกับยางไปพร้อมๆ กัน แล้วก้าวกลับมาที่เดิม
แม้จะทำครบจบ 2 รอบแล้ว แต่คลาสก็ยังไม่จบ โค้ชมายด์เพิ่มเกมมาให้เราเล่นสนุกส่งท้ายด้วยการ Wall Sit พร้อมกันทุกคนแล้วส่งตัวแทนออกมาทำท่า Sit Up หรือ Crunch ให้ครบตามจำนวนที่กำหนด ทำวนไปจนครบทุกคน งานนี้ใครจะออกมาก็ร้าว คนที่รอก็ร้าวเช่นกัน
Result
จบคลาสด้วยการนอนกุมท้อง ถอนหายใจไปหลายเฮือก เรียกว่าสมชื่อคลาส HOWL CORE เพราะแต่ละท่านั้นเน้นขยี้กล้ามท้องแบบเน้นๆ จริงๆ
Good for
ใครที่อยากเพิ่มความแข็งแรงให้หน้าท้อง ชอบความร้าวรานแบบฟินๆ หลังออก คลาสนี้น่าจะตอบโจทย์ไม่น้อย รวมถึงใครที่อยากเข้าคลาสหลากหลายสไตล์แบบจบครบในที่เดียว หรือจะแวะมานั่งฟัง Live DJ แฮงเอาต์เพลินๆ ทีม WOLF ก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน
WOLF Wellness & Training
Open: วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-21.00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.
Address: เอกมัยซอย 6
Tel: 08 8292 6941
Budget: 1 Credit 850 บาท, 7-Day Trial 1,500 บาท
Website: https://www.wolf-bkk.com/
Instagram: https://www.instagram.com/wolfbkk_/
Map: