×

ยกเลิกกฎหมายพนันกีฬา จุดเปลี่ยนสังคมสหรัฐฯ ที่ไทยควรเรียนรู้

18.05.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins. Read
  • ศาลสูงในประเทศสหรัฐฯ​ ได้ประกาศยกเลิกร่างกฎหมายห้ามพนันกีฬาทั่วประเทศที่ใช้กันมานานตั้งแต่ปี 1992  
  • เปิดโอกาสให้แต่ละรัฐสามารถออกกฎหมายควบคุม บังคับ หรือห้ามการพนันกีฬาในแต่ละภูมิภาคได้เอง
  • คาดว่าในปี 2020 วงการพนันกีฬาใน E-Sport จะมีมูลค่าสูงถึง 12.9 ล้านเหรียญสหรัฐ การยกร่างกฎหมายนี้จะส่งผลให้ตัวเลขเติบโตขึ้นอีก

ข่าวใหญ่วงการกีฬาในประเทศสหรัฐฯ หลังจากที่ศาลสูงสหรัฐฯ มีคำสั่งยกเลิกร่างกฎหมายห้ามพนันกีฬาทั่วประเทศที่ใช้กันมานานตั้งแต่ปี 1992  

 

ร่างกฎหมายดังกล่าวมีชื่อว่า Professional and Amateur Sports Protection Act (PASPA) ซึ่งถูกร่างขึ้นมาเพื่อปกป้องวงการกีฬาไม่ให้ได้รับผลกระทบและอิทธิพลจากธุรกิจการพนัน โดยมีข้อยกเว้นเพียงรัฐเนวาดา ที่มีบ่อนการพนันแบบถูกกฎหมาย หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ลาสเวกัส นั่นเอง

 

ซึ่งล่าสุดศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ลงมติ 6 ต่อ 3 เสียงให้ยกเลิกร่างกฎหมายนี้ ส่งผลให้แต่ละรัฐสามารถออกกฎหมายควบคุมหรืออนุญาตการพนันกีฬาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้นับเป็นการปลดล็อกตลาดการพนันกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจากรายงานของ ESPN ระบุว่า ปี 2017 การพนันกีฬาในเนวาดามีเงินสะพัดถึง 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 154,000 ล้านบาท แต่ในขณะเดียวกันการพนันกีฬาผิดกฎหมายกลับมีเงินสะพัดสูงถึง 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.8 ล้านล้านบาทในปีเดียวกัน

 

ทำไมต้องปลดล็อกพนันกีฬา

หลังจากการยกเลิกร่างกฎหมายนี้ บริษัทวิจัยในสหรัฐฯ เชื่อว่า 32 รัฐภายในประเทศจะตัดสินใจอนุญาตให้พนันกีฬาอย่างถูกกฎหมายภายในเวลา 5 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะยังไม่เป็นกฎระเบียบและข้อบังคับของแต่ละรัฐอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่าผู้ให้บริการจะต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของรัฐอย่างเคร่งครัด

 

 

แน่นอนว่าสหรัฐอเมริกามองเห็นปัญหาเกี่ยวกับการพนันที่ไม่ต่างจากประเทศอื่น ตั้งแต่ความเสี่ยงต่อการล็อกผลการแข่งขัน การเสพติดการพนัน และปัญหาการพนันโดยเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่กีฬาดั้งเดิมที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในสหรัฐฯ ตัดสินใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทการพนัน เนื่องจากมองว่าอาจส่งผลเสียต่อแบรนด์กีฬาของพวกเขา

 

แต่ล่าสุดทาง อดัม ซิลเวอร์ NBA Commissioner ได้เปลี่ยนมุมมองของเขาที่มีต่อการพนันกีฬา อดัมไม่ได้สนับสนุนการพนัน เพียงแต่เขาต้องการใช้แบรนด์ของ NBA ช่วยโปรโมตระบบการควบคุมการพนันในวงการกีฬา ตั้งแต่การมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด และการรายงานสิ่งที่ผิดปกติในการพนัน การออกใบอนุญาต การกำหนดอายุ การ ‘บล็อกคอนเทนต์ให้ดูตามพื้นที่’ หรือ Geo-blocking ระบบที่สามารถจำกัดไม่ให้คนที่มีปัญหาเสพติดการพนันเข้าถึงได้ รวมถึงการให้ความรู้คนเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อการพนัน

 

 

นอกจากนี้ทาง NBA ยังได้เสนอให้มีการบังคับจ่ายค่า ‘Integrity Fee’ จากผู้ให้บริการการพนันถูกกฎหมาย โดยเป็นการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากการพนัน เพื่อนำเงินส่วนนั้นมาเป็นทุนในการสร้างระบบดังกล่าว  

 

ขณะเดียวกับทางตัวแทนกีฬาชั้นนำของสหรัฐฯ ตั้งแต่ อเมริกันฟุตบอล NFL เมเจอร์ลีก เบสบอล MLB บาสเกตบอลมหาวิทยาลัย NCAA ฮอกกี้น้ำแข็ง NHL ต่างก็ออกมาแสดงความกังวลโดยเชื่อว่าการพนันจะส่งผลกระทบต่อความซื่อสัตย์ของนักกีฬาในการแข่งขัน แต่อย่างไรก็ตามระหว่างที่แต่ละรัฐเดินหน้าหาทางออกว่าจะควบคุมบังคับหรือป้องกันการพนันในแต่ละพื้นที่อย่างไร การแข่งขันแต่ละรายการจะเดินหน้าประสานงานร่วมมือเพื่อหาทางป้องกันไม่การพนันเข้ามามีอิทธิพลเหนือผลการแข่งขันของลีกต่างๆ กันอย่างใกล้ชิด

 

 

ส่วนทางด้าน PGA Tour รายการแข่งขันกีฬากอล์ฟในสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนการตัดสินใจที่จะสร้างกฎข้อบังคับให้การพนันกีฬาปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ

 

“เราเชื่อว่ากฎข้อบังคับต่างๆ คือหนทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการรักษาความซื่อสัตย์และความโปร่งใสในการแข่งขัน ปกป้องลูกค้า สร้างความสัมพันธ์กับแฟนกีฬา และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล ผู้ให้บริการ และลีกการแข่งขัน

 

“เราจะร่วมมือกับ NBA MLB ในการจัดการครั้งนี้ และให้ความร่วมมือกับผู้ออกกฎหมาย ผู้บังคับใช้กฎหมาย ผู้ให้บริการ และทุกคนในอุตสาหกรรม เพื่อหากฎข้อบังคับที่สร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง”

 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแม้ว่าการพนันจะเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายเพียงแค่รัฐเนวาดา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแฟนกีฬาสหรัฐฯ มีความชื่นชอบในการพนันกีฬามากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการพนันที่บ่อนถูกกฎหมายหรือการพนันในรูปแบบต่างๆ เกี่ยวกับผลการแข่งขันกีฬา

 

ยกตัวอย่างเช่น ซูเปอร์โบวล์ครั้งล่าสุด ระหว่างนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ที่ลงแข่งขันกับฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ในเกมนั้น Bill Carpenter นายกเทศมนตรีรัฐแมสซาชูเซตส์ ได้พนันกับ Jim Kenney นายกเทศมนตรีของฟิลาเดลเฟียว่า หากใครแพ้ต้องนำชุดของอีกฝ่ายมาแต่งให้กับรูปปั้น Rocky ในเมืองของตนเอง ซึ่งสุดท้ายเป็น Bil  Carpenter ที่ต้องนำชุดฟิลาเดลเฟียมาใส่ให้กับรูปปั้น Rocky Marciano ตำนานนักชกอิตาลี หลังจากที่แพทริออตส์แพ้ให้กับอีเกิลส์ไป 33-41

 

 

ขณะที่ทางด้าน Dan Etna ผู้ร่วมบริหารด้านกฎหมายกีฬาที่ Herrick Feinstein ในประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times มองว่าทางรัฐจะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นโอกาสสร้างรายได้เข้ารัฐจากการเก็บภาษี เช่นเดียวกับลีกการแข่งขัน

 

“ทางรัฐจะมองเห็นเหตุการณ์นี้เป็นโอกาสในการสร้างรายได้อย่างถูกกฎหมายผ่านการเก็บภาษี ส่วนลีกการแข่งขันบอกว่า ในเมื่อผู้คนพนันกับสินค้าของเราอยู่แล้ว เราก็ต้องการส่วนแบ่งเช่นกัน”

 

เห็นได้ชัดว่าจากคำแถลงการณ์ต่างๆ ทางลีกการแข่งขันนั้นมีความกังวลไม่น้อยต่อการพนันที่หากสามารถดำเนินการได้กว้างขวางมากขึ้น อาจมีอิทธิพลเหนือความโปร่งใสของการแข่งขัน แต่ในขณะเดียวกันการเห็นตัวเลขการพนันอย่างผิดกฎหมายที่มีเงินสะพัดสูงถึง 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทางรัฐและลีกอาจต้องการสิ่งที่ Dan Etna ได้กล่าวไว้นั้นก็คือ “เป็นโอกาสในการสร้างรายได้อย่างถูกกฎหมาย” ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดสร้างระบบการป้องกันและการส่งเสริมการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ แต่จะสามารถทำได้หรือไม่นั้นก็คงต้องรอทางแต่ละรัฐออกกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการพนันออกมาและเริ่มต้นบังคับใช้อย่างเป็นทางการ

 

E-Sport จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังยกเลิกข้อห้ามการพนันกีฬา

 

 

Naruse Advisor ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ตลาดการพนัน E-Sport ในปี 2016 ระบุว่ามีมูลค่าสูงถึง 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2020 จะมีมูลค่าสูงถึง 12.9 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่การคาดการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ร่างกฎหมาย Professional and Amateur Sports Protection Act (PASPA) ยังถูกบังคับใช้ ซึ่งแน่นอนว่าหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ตัวเลขย่อมจะสูงขึ้นไปอีก

 

Photo: 12up.com

 

แต่ถึงอย่างนั้นที่ผ่านมากลับมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้น เพราะในแวดวง E-Sport เคยมีการล็อกผลการแข่งขันจนนำไปสู่การตัดสินใจฆ่าตัวตายของ Cheon ‘Promise’ Min-ki หนึ่งในนักกีฬา E-Sport ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดจากเกาหลีใต้ ที่กระโดดตึกสูง 12 ชั้นแต่รอดมาได้แบบปาฏิหาริย์ ทำให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรม E-Sport จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้จากวงการกีฬาอื่นๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อนำบทเรียนต่างๆ มาปรับใช้กับ E-Sport ให้มีการป้องกันทั้งการแข่งขัน และชีวิตของผู้คนที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากฐานแฟนกีฬาของ E-Sport หรือแม้กระทั่งนักกีฬา E-Sport ส่วนมากคือเยาวชน

 

ซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีโอกาสนำไปสู่การส่งเสริมให้คนติดการพนันมากขึ้น หรืออาจช่วยสร้างสังคมการพนันอย่างมีความรับผิดที่มีประสิทธิภาพ คงเป็นคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ แต่คำถามที่สำคัญที่สุดคือ วงการกีฬาในสหรัฐฯ ควรที่จะหลีกหนีทำเป็นมองไม่เห็นปัญหาการพนันที่กระทำกันอย่างผิดกฎหมาย หรือควรกลายเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา

 

 

ย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ THE STANDARD เคยรายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้ในบทความ เวทีประชุมวิชาการ ถกปัญหาพนัน หวั่นจัด ‘ฟุตบอลโลก 2018’ ทำพนันบอลออนไลน์พุ่ง

 

ซึ่งจากตัวเลขพบว่า คนไทยเคยเล่นพนัน 40 ล้านคน หากนับเฉพาะปี 2560 คนไทยเล่นพนันเกือบ 29 ล้านคน เริ่มเล่นพนันครั้งแรกอายุต่ำสุด 6 ขวบ ฮิตเล่นสลากกินแบ่งรัฐบาล หวย ไพ่ ผลบอล

 

ผลสำรวจครั้งนี้ยังระบุอีกว่า “เยาวชนชายที่เริ่มเล่นพนันจากการพนันฟุตบอล พบว่าร้อยละ 87.3 จะเล่นพนันต่อเนื่อง”

 

ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่าฟุตบอลโลก การแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้อาจส่งผลกระทบทำให้การพนันบอลออนไลน์พุ่งสูงขึ้น

 

คำว่า ‘การพนัน’ เป็นสิ่งที่เราถูกสอนให้กลัวมาตลอดด้วยวลีที่ว่า “หากติดการพนันมีเงินเท่าภูเขาก็หมดได้” สิ่งที่ประเทศไทยสามารถทำได้ในตอนนี้คือเรียนรู้จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐฯ​ ไม่ว่าการตัดสินใจของพวกเขาจะนำพาสังคมไปในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง แต่สิ่งที่เราสามารถนำมาปรับใช้ได้คือบทเรียนที่จะได้รับจากความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising