ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งจะอยู่ท่ามกลางตลาดการแข่งขันที่รุนแรงและยืนระยะแห่งความสำเร็จ โดยเฉพาะในธุรกิจประกันชีวิตที่มีการแข่งขันสูงในทุกๆ ปีได้อย่างที่ เอไอเอ ประเทศไทย ทำเอาไว้นานถึง 80 ปี
วันนี้ THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ เอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เพื่อถอดรหัสความสำเร็จที่เอไอเอ ประเทศไทย ทำเอาไว้ รวมถึงการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ทันกับสถานการณ์โลกและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
แต่สุดท้ายไม่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าไร สิ่งหนึ่งที่เอกรัตน์ยืนยันและให้ ‘คำมั่นสัญญา’ ก็คือเอไอเอจะยืนหยัดที่จะรักษาทุกๆ คำมั่นสัญญาเพื่อคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทุกคนตลอดไป
ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด คุณมองเห็นความสำคัญในวาระครบรอบ 80 ปี ของเอไอเอ ประเทศไทย อย่างไรบ้าง
การที่บริษัทหนึ่งอยู่มาได้ถึง 80 ปี มันแสดงให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งความมั่นคงและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารรุ่นก่อนๆ ที่สามารถพัฒนาบริษัทให้สามารถอยู่ในตลาดมาได้เป็นระยะเวลาอันยาวนาน โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพ การบริการ และการดูแลของเอไอเอที่ทุกคนคงได้เห็นอยู่แล้วตลอดระยะเวลา 80 ปีที่ผ่านมา
แต่ตอนนี้อย่างที่รู้กันดีว่าเทคโนโลยีต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงเทรนด์ในตลาดธุรกิจประกันชีวิตรวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เอไอเอกำลังมองต่อไปคือเราต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะตอบสนองทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพราะเป้าหมายในระยะยาวของเอไอเอ เราไม่ต้องการหยุดอยู่แค่ปีที่ 80 แต่เราอยากจะอยู่เพื่อคุ้มครองคนไทยไปตลอด
สิ่งที่เอไอเอให้ความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือเรื่องอะไร
ก่อนหน้านี้เราใช้ Brand Promise ‘The Real Life Company’ หรือ ‘เข้าใจชีวิต เข้าใจคุณ’ ซึ่งหมายถึงเราเป็นบริษัทที่เข้าใจชีวิตว่าเป็นสิ่งที่เปราะบาง มีขึ้นมีลง คาดเดายาก เพราะฉะนั้นภารกิจหลักของเอไอเอในตอนนั้นคือการช่วยวางแผนให้ทุกคนพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้
มาถึงปัจจุบัน เราได้เล็งเห็นว่าจริงๆ การที่คนคนหนึ่งจะมีชีวิตที่ดีได้ ไม่ใช่แค่มีการวางแผนที่ดี หรือมีการบริหารความเสี่ยงแล้วจะเพียงพอ แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างคือทุกคนต้องมีสุขภาพชีวิตที่ดีไปพร้อมๆ กันด้วย สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในตอนนี้ก็คือการพยายามเน้นในเรื่องการช่วยให้คนไทยดูแลสุขภาพให้มีชีวิตที่ดีและมีคุณภาพยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการเปลี่ยน Brand Promise ใหม่เป็น ‘Healthier, Longer, Better Lives’ หรือ ‘เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ เพราะเราไม่อยากให้เอไอเอเป็นเพียงแค่บริษัทประกันชีวิตที่คุณจ่ายเบี้ยประกันให้เรา แล้วเราก็จ่ายเคลมเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นในชีวิต แต่เราต้องการจะช่วยให้ทุกคนสามารถดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้แข็งแรงขึ้น เพื่อให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีอายุยืนแบบมีคุณภาพ โดยไม่ต้องรอให้เกิดเหตุร้ายขึ้นก่อนแล้วค่อยเข้าไปดูแล
เอไอเอมีแผนการตลาดอย่างไรเพื่อใช้ในการทำตามคำสัญญาในเรื่อง Healthier, Longer, Better Lives ให้ได้
เรามีหลายๆ แคมเปญที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีแผนที่จะต่อยอดพัฒนาต่อไปในอนาคต เช่น แคมเปญ What’s Your Why? ที่ได้ เดวิด เบ็คแฮม แบรนด์แอมบาสเดอร์ของกลุ่มบริษัทเอไอเอมาช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนค้นหาเหตุผลของการมีสุขภาพดี เพื่อเป็นแรงผลักดันให้คนเหล่านั้นเริ่มต้นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว อีกด้านหนึ่งคือการที่เราเป็นพาร์ตเนอร์กับสโมสรฟุตบอล Tottenham Hotspur เพื่อช่วยกระตุ้นให้คนสนใจการออกกำลังกาย พร้อมทั้งสนับสนุนการฝึกทักษะฟุตบอลกับเด็กๆ อีกด้วย
นอกจากนี้เรายังมีโครงการ AIA Vitality ซึ่งเป็นโครงการสุขภาพแนวใหม่ที่สนับสนุนให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและหันมาดูแลสุขภาพ ซึ่งการดูแลรักษาสุขภาพไม่ใช่เพียงการทำดีแล้วต้องได้ดี แต่ทำดีแล้วต้องได้ผลตอบแทนทันที ดังนั้นโครงการ AIA Vitality จึงมีสิทธิประโยชน์มากมายจากพันธมิตรที่มอบให้กับสมาชิกของโครงการ เช่น ส่วนลดออกกำลังกายที่ Fitness First และ Absolute You หรือส่วนลดเมื่อซื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพที่ Tops Supermarket ยิ่งไปกว่านั้น AIA Vitality ยังเป็นโครงการแรกที่มอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันให้กับสมาชิกสูงสุดถึง 25% ขึ้นอยู่กับสถานะ AIA Vitality ของสมาชิกที่ยิ่งสูง สัดส่วนของส่วนลดก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องพัฒนาต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสุขภาพที่ดีขึ้นของลูกค้าทุกคนในระยะยาวต่อไป
ผลระยะยาวเรื่องไหนที่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด เมื่อคนไทยมีสุขภาพดีขึ้นจริงๆ
เมื่อทุกคนสุขภาพดีขึ้น สุดท้ายมันจะส่งผลกลับมาพัฒนาที่เศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยด้วย อันนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เอไอเอค่อนข้างให้ความสำคัญ เพราะทุกวันนี้ค่ารักษาพยาบาลสูงมากขึ้นทุกปี ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนสุขภาพดีขึ้น จำนวนเงินมหาศาลที่ต้องนำมาใช้กับการรักษาพยาบาลจะลดลง และสามารถนำเงินไปพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านอื่นๆ ได้อีกมาก
กลับมาที่คำมั่นสัญญาใหม่ Healthier, Longer, Better Lives ของเอไอเอ โดยส่วนตัวคุณให้ความสำคัญกับ 3 คำนี้อย่างไรบ้าง
ส่วนตัวผมขอเน้นไปที่ Healthier กับ Better Lives เป็นหลัก เพราะเทรนด์ของโลกตอนนี้คือคนจะมีอายุยืนขึ้นอยู่แล้ว แต่การที่มีอายุยืนยาวขึ้นอาจจะหมายความว่าคุณต้องใช้ชีวิตไปกับการเข้าโรงพยาบาลหรือนอนเฉยๆ อยู่บนเตียง สิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากกว่าคือทำอย่างไรให้ชีวิตที่ยืนยาวนั้นเป็นชีวิตที่ดีและมีคุณภาพมากขึ้นไปด้วย เพื่อที่คุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะเอาชีวิตที่ยืนยาวเพิ่มขึ้นมาไปสร้างประโยชน์หรือความสุขให้กับตัวเองได้อย่างไรต่อไป
อย่างที่เห็นในภาพยนตร์โฆษณาตัวล่าสุด ‘80 ปี เอไอเอ ประเทศไทย ดูแลทุกคำสัญญาให้ดีที่สุด’ ก็เน้นในเรื่องการรักษาคำสัญญา แนวคิดของโฆษณาตัวนี้เริ่มต้นได้อย่างไร
เราอยากให้ทุกคนรู้ว่าสิ่งหนึ่งที่เอไอเอยึดมั่นมาตลอด 80 ปีอยู่เหนือทุกนโยบายใดๆ คือเราจะเป็นบริษัทประกันที่รักษาทุกคำสัญญาที่ให้ไว้อย่างดีที่สุด ซึ่งทุกกรมธรรม์เปรียบเสมือนคำมั่นสัญญาที่เอไอเอได้ตั้งใจมอบให้กับลูกค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 5.5 ล้านคน รวมกว่า 8 ล้านกรมธรรม์ เพื่อให้ทุกครอบครัวมีความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพที่เพียงพอ นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยทั่วประเทศ ซึ่งเป็นที่มาของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ กระทั่งวันนี้เรามีภารกิจใหม่ที่จะช่วยดูแลให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น เราก็จะรักษาคำสัญญานี้ไว้ตลอดเหมือนที่คุณพ่อในหนังโฆษณาตัวนี้ทำ คือเขาเคยสัญญาว่าจะดูแลหัวใจของลูกสาวให้ดีที่สุด เขาก็ยังคงทำแบบนั้นต่อไป ไม่ว่าหัวใจของลูกสาวจะไปอยู่กับใครก็ตาม เช่นเดียวกับที่เอไอเอทำอยู่และจะทำตลอดไป คือเราจะรักษาทุกๆ คำสัญญาที่ให้ไว้กับทุกคนอย่างแน่นอน