หลังจากที่มีการแถลงข่าวไปเมื่อกลางเดือนมกราคม ในที่สุดซัมซุง (Samsung) ก็เผยโฉม Galaxy Ring สู่สาธารณะครั้งแรกในงาน Mobile World Congress (MWC) 2024 โดยแหวนอัจฉริยะ หรือ Galaxy Ring มาพร้อมฟีเจอร์การติดตามข้อมูลสุขภาพ ยกตัวอย่างเช่น อัตราการเต้นของหัวใจ คุณภาพของการนอนหลับ รวมทั้งการรายงานคะแนน ‘Vitality Score’ หรือคะแนนที่เป็นมาตรวัดความพร้อมทางร่างกายและจิตใจของผู้ใช้งานในการจะออกไปลุยงานและใช้ชีวิตในแต่ละวัน เพื่อให้เราได้รู้จักกับตัวเองและปรับพฤติกรรมเชิงสุขภาพให้ได้ตรงจุดมากขึ้น
ภาพ: Android Police
แต่ Galaxy Ring ไม่ใช่เพียงแค่แหวนสำหรับคนรักสุขภาพเท่านั้น เพราะทาง Samsung เองก็มีการเตรียมฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติมที่คาดว่าจะนำมาใช้ในแหวนอัจฉริยะนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การชำระเงินแบบไร้สัมผัสที่จะสามารถทำได้เหมือนกับที่สมาร์ทโฟนทำอยู่ในปัจจุบัน
“แน่นอนว่าเราอยากเห็นการใช้งานที่มากกว่าแค่สุขภาพเพียงอย่างเดียว และเราก็มีทีมที่กำลังค้นคว้าวิจัย เพื่อหากรณีการใช้งานใหม่ๆ อยู่” Hon Pak รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีสุขภาพของ Samsung กล่าวกับ CNBC
Galaxy Ring กับกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้าด้วย Health Ecosystem
การขยับครั้งนี้ของ Samsung เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทางบริษัทต้องการที่จะเข้ามาตีตลาดด้านสุขภาพให้มากขึ้น เพราะส่วนของตลาดสุขภาพเป็นตลาดที่ Samsung ได้ลงแรงพัฒนามาหลายปีแล้ว
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีรายนี้มีผลิตภัณฑ์อย่างสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอทช์มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่การตัดสินใจของ Samsung ในการออก Galaxy Ring นี้มาจากเหตุผลที่ลูกค้าต้องการตัวเลือกที่หลากหลายกว่า โดย Hon Pak ให้เหตุผลว่า ผู้คนอยากมีอุปกรณ์สวมใส่แบบอื่นที่สะดวกสบายกว่าเดิม
“ในขณะที่คนบางกลุ่มอยากจะใส่นาฬิกา บ้างก็มองหาอะไรที่เรียบง่าย หรือแม้แต่ใส่อุปกรณ์ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันเลยก็เป็นไปได้” เขากล่าว
แม้จะยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนของวันที่จะวางขาย แต่หลายสำนักข่าวที่ได้พูดคุยกับ Hon Pak รายงานว่า Galaxy Ring จะออกสู่ตลาดภายในปีนี้ โดยมีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นครึ่งหลังของปี 2024 และเมื่อถึงตอนนั้นตัวแหวน Galaxy Ring ก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ Samsung โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ
สิ่งนี้จะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญของความพยายามจาก Samsung ที่ต้องการดึงดูดผู้ใช้งานรายใหม่ให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากค่าย แต่ที่สำคัญก็คือ การรักษาฐานลูกค้าเดิมไม่ให้หันไปหาสินค้าของคู่แข่ง โดยข้อดีของ Galaxy Ring คือ มันจะสามารถทำงานควบคู่กันไปกับของเดิมที่ Samsung มีอยู่แล้ว อย่างเช่น Galaxy Watch ที่เราอาจจะสวมใส่ทำกิจกรรมระหว่างวัน ก่อนจะเปลี่ยนมาสวมแหวนตอนนอน เพื่อที่ยังจะสามารถติดตามข้อมูลด้านสุขภาพได้อย่างต่อเนื่องด้วยสิ่งที่เล็ก กะทัดรัด และสบายกว่า
ภาพ: Samsung
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android แต่สนใจ Galaxy Ring อาจจะต้องรอความชัดเจนกว่านี้ก่อน หรือไม่ก็คงต้องมองหาตัวเลือกอื่นไปเลย
เพราะแม้ว่า Hon Pak จะตระหนักถึงความท้าทายในการทำงานของอุปกรณ์ข้ามระบบปฏิบัติการ โดยเฉพาะระหว่าง iOS กับ Android แต่สิ่งที่เขากล่าวภายในงาน MWC คือ “ผมหวังว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์เราจะดีพอที่ทำให้คนยอมเปลี่ยนมาใช้ของเรา” ซึ่งฟังดูแล้วก็ค่อนข้างชัดเจนว่า Galaxy Ring น่าจะทำงานร่วมกันแค่กับสินค้าของ Android อย่างน้อยก็ในอนาคตอันใกล้นี้ จนกว่าจะมีแถลงเปลี่ยนแปลงแผนการ
เพจ Android Authority ได้ออกมาให้ความเห็นหลังจากได้ลอง Galaxy Ring ว่า “นี่แหละคือจุดแข็งของ Samsung” โดยปัญหาที่นักรีวิวคนนี้เจอก่อนหน้านี้จากการใช้อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะจากแบรนด์อื่นๆ ก็คือ มันไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มได้ แต่แพลตฟอร์มสุขภาพของ Samsung จะเข้ามาแก้ไขจุดบอดให้ข้อมูลถูกส่งไปมาบนระบบนิเวศได้อย่างครอบคลุมได้
การแข่งขันที่อาจมี Apple ลงมาเล่นด้วย
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า Galaxy Ring ณ ขณะนี้ดูแล้วจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนที่ใช้ Android อยู่แล้ว แต่ตลาดแหวนอัจฉริยะก็มีผู้เล่นเดิมอยู่ในตลาดอย่าง Oura Ring ที่สามารถทำงานร่วมกันกับระบบปฏิบัติการ iOS ได้
แต่เมื่อกล่าวถึง iOS ก็ต้องพูดถึง Apple และสาวก Apple ก็อย่าเพิ่งหมดหวังสำหรับแหวนอัจฉริยะไป เพราะมีหรือที่ Apple ในฐานะบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จะยอม?
Bloomberg รายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมาทีมดีไซน์ของ Apple ได้มีการนำเสนอไอเดียแหวนอัจฉริยะแก่ทีมผู้บริหารไปแล้วเหมือนกัน และเนื่องด้วยผลประกอบการของแผนกอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Devices) เช่น Apple Watch และ AirPods มีสัดส่วนรายได้ในปัจจุบันกว่า 10% ของ Apple จากเพียงแค่ไม่ถึง 5% เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็ไม่แปลกที่บริษัทจะเดินหน้าขยายไลน์สินค้าในส่วนนี้ เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และก็พยายามทำให้ลูกค้าเก่าอยู่ใน Ecosystem ของ Apple ต่อไป
ณ ปัจจุบันหลายคนเลือกซื้อ Apple Watch เพื่อติดตามผลสุขภาพ แต่ภายในกลุ่มคนพวกนี้เองก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องการแค่ฟังก์ชันในเรื่องสุขภาพอย่างเดียว และไม่อยากได้การแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ รวมทั้งบางคนที่ก็ไม่อยากได้ Apple Watch เพราะยังชื่นชอบที่จะใส่นาฬิกาแบบคลาสสิกอยู่ หรือแม้กระทั่งไม่ชอบใส่เลย ทำให้แหวนอัจฉริยะสามารถเข้ามาตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้
นอกจากนี้ Apple ยังเป็นที่รู้จักและยอมรับในเรื่องของดีไซน์ที่ทันสมัยและเรียบหรู ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเข้มข้นทางการแข่งขันใน ‘สังเวียน’ แหวนอัจฉริยะให้กับ Samsung แน่นอน หากพวกเขาตัดสินใจจะกระโดดเข้ามาเล่นในตลาดด้วย
Galaxy Ring อนาคตของอุปกรณ์สุขภาพ?
ข้อได้เปรียบที่ Galaxy Ring มีคือ การที่บริษัทขยับตัวเร็ว ถึงแม้จะมาช้ากว่า Oura Ring แต่จุดเด่นคือ Ecosystem ที่ครอบคลุมและเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่าสำหรับคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Samsung อยู่แล้ว
ภาพ: Samsung
อย่างไรก็ตาม คำถามหลายอย่างยังคงไม่ถูกเฉลย เช่น ความอึดทนของแบตเตอรี่ ราคา หรือวันที่วางจำหน่าย จึงคงมีแค่เวลาที่จะเป็นตัวเฉลยว่านวัตกรรมของค่ายไหนดีที่สุด หรือแม้กระทั่งว่า อุปกรณ์ ‘แหวนอัจฉริยะ’ จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตใครหลายคนในระยะยาวจริงหรือไม่ เพราะบางคนที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมองว่า เทคโนโลยีที่สามารถเข้าใจร่างกายของเราได้ดีกว่าเราเข้าใจตัวเองคือสิ่งที่น่ากลัว หรือบางคนอาจจะไม่ได้สนใจฟีเจอร์ที่สิ่งเหล่านี้มีให้เลยก็ได้
ดังนั้นความท้าทายข้างหน้าของ Galaxy Ring รวมถึงบริษัทอื่นๆ ที่พัฒนาแหวนคือ การทำให้แหวนตอบโจทย์กับผู้ใช้งานให้ได้ โดยในตอนนี้ ‘การตอบโจทย์’ ยังเป็นสิ่งที่เปิดกว้างอยู่ แต่เราคงได้เห็นความชัดเจนเพิ่มเติมจาก Samsung อีกครั้งในครึ่งหลังของปี 2024 ว่าแหวนอัจฉริยะตัวนี้จะมีบทบาทกับชีวิตประจำวันของผู้คนในเชิงสุขภาพได้มากน้อยแค่ไหน
ภาพ: Geeky-gadgets
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2024/02/26/samsung-galaxy-ring-specs-features-release-date.html
- https://www.androidauthority.com/samsung-galaxy-ring-vs-oura-ring-3419225/
- https://www.bloomberg.com/news/newsletters/2024-02-25/apple-ponders-making-new-wearables-ai-glasses-airpods-with-cameras-smart-ring-lt1kb7cd?sref=CVqPBMVg
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: