วันนี้ (6 มีนาคม) ที่ Melbourne Convention and Exhibition Centre นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยผู้นำอาเซียนและ แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เข้าร่วมการประชุมเต็มคณะของผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย ภายใต้หัวข้อ ‘ASEAN-Australia Cooperation under ASEAN’s Three Community Pillars’
นายกรัฐมนตรีพร้อมผู้นำอาเซียนและออสเตรเลีย ต่างยินดีที่อาเซียนและออสเตรเลียได้ร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียนับเป็นประเทศแรกที่ได้รับสถานะประเทศคู่เจรจาของอาเซียน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือให้ใกล้ชิดมากขึ้น จนนำไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน พร้อมเสนอให้ที่ประชุมฯ ใช้โอกาสที่สถานการณ์โลกปัจจุบันแบ่งเป็นหลายขั้ว กระชับความร่วมมือทั้งภายในภูมิภาคและระดับโลก เพื่อนำมาซึ่งสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองของอาเซียนและออสเตรเลีย ผ่านการผลักดันความร่วมมือ
ผลักดันความเชื่อมโยงทุกมิติ-ส่งเสริมพลังงานสะอาด
โดยนายกรัฐมนตรีได้ระบุ 2 ประเด็นเร่งด่วน ซึ่งจะทำให้เกิดสันติสุขและความมั่นคง ดังนี้
ประการแรก การส่งเสริมความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อในทุกมิติ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้อาเซียนและออสเตรเลียใช้ประโยชน์จากศักยภาพอย่างเต็มที่ ผ่านการสนับสนุนความเชื่อมโยงในมิติต่างๆ ดังนี้
- ความเชื่อมโยงการค้าและด้านการลงทุน ซึ่งจะส่งเสริมมูลค่าทางการค้าระหว่างกัน และใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี ทั้งกรอบ RCEP และความตกลงเพื่อจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA)
- ความเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมการขนส่งอย่างไร้รอยต่อ โดยเสนอให้ออสเตรเลียซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านระบบการจัดการท่าเรือ กระชับความร่วมมือกับอาเซียนซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาเอกสารแนวทางสำหรับท่าเรืออัจฉริยะ รวมทั้งเชิญชวนออสเตรเลียเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ EEC ระบบขนส่งทางราง และสนามบินด้วย
- ความเชื่อมโยงด้านดิจิทัล ผ่านการลงทุนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันอาเซียนกำลังพัฒนากรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) ที่ถือเป็นกรอบข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลฉบับแรกของโลก และคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนได้ 2 เท่า หรือ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมหวังว่าออสเตรเลียจะใช้ข้อริเริ่มออสเตรเลียสำหรับอาเซียน เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัล และการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของอาเซียนในอนาคตด้วย
- ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ด้วยซอฟต์พาวเวอร์และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ต้องการการลงทุนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ควบคู่กับการส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างกันของประชาชน ซึ่งไทยหวังว่าทุนจากออสเตรเลียที่มอบให้นักเรียนในอาเซียน และการจัดตั้งศูนย์ ASEAN-Australia จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการศึกษา ศิลปะ วัฒนธรรม และการอบรมเพิ่มพูนทักษะ ระหว่างกันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งหวังว่าออสเตรเลียจะอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าให้กับประเทศในอาเซียน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการดำเนินธุรกิจระหว่างกันให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ประการที่สอง การส่งเสริมวาระสีเขียวในภูมิภาค โดยสนับสนุนการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว และการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ซึ่งออสเตรเลียสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับอาเซียน ในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า การลงทุนในพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน การเงินสีเขียวผ่านพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน และการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหวังว่าออสเตรเลียจะร่วมแบ่งปันเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญในการจัดการคาร์บอน และตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อรองรับยุทธศาสตร์อาเซียนเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียังแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกับทุกฝ่าย ในการกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน เพื่อมุ่งไปสู่ภูมิภาคที่เชื่อมโยงและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ร่วมพิธีต้อนรับประมุข ก่อนบินไปเยอรมนี
จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมพิธีต้อนรับประมุขประเทศ และหัวหน้ารัฐบาล โดยผู้สำเร็จราชการประจำรัฐวิกตอเรีย ก่อนจะร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน โดยผู้สำเร็จราชการประจำรัฐวิกตอเรียเป็นเจ้าภาพ
ช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำอาเซียน-ออสเตรเลีย และในช่วงเย็นจะเข้าร่วมพิธีอำลาผู้นำอย่างไม่เป็นทางการ ณ ทำเนียบผู้สำเร็จราชการประจำรัฐวิกตอเรีย ก่อนเดินทางออกจากท่าอากาศยานเมลเบิร์น ไปยังกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีต่อไป