เหตุเกิดที่ภูเก็ต แต่บัดนี้เรื่องสะเทือนถึงหูผู้มีอำนาจในทำเนียบรัฐบาลแล้ว สำหรับปมร้อนในโลกออนไลน์ กรณี พญ.ธารดาว จันทร์ดำ อายุ 26 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลดีบุก จังหวัดภูเก็ต แจ้งว่าถูกชาวต่างชาติสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ทำร้ายร่างกาย พร้อมด่าทอด้วยคำหยาบคาย
THE STANDARD ชวนผู้ติดตามเรียงไทม์ไลน์ รวมถึงสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างคุณหมอสาวชาวภูเก็ตสัญชาติไทย และชาวต่างชาติสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ดังนี้
28 กุมภาพันธ์ 2567
พญ.ธารดาว แจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปรับประทานอาหารบริเวณหาดยามู หลังรับประทานอาหารเสร็จได้เดินเล่นและนั่งชมพระจันทร์ที่บันไดคอนกรีตทางขึ้นไปสนามหญ้าหน้าวิลล่า
จากนั้นถูกคู่กรณีที่เป็นชายชาวต่างชาติเจ้าของบ้าน นามว่า เดวิด หรือ อูร์ส บีท เฟร์ (Urs Beat Fehr) อายุ 45 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เตะเข้าบริเวณหลัง พร้อมด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และมีการกล่าวอ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจใหญ่
ทั้งนี้ แม้จะมีการเจรจาโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่สามารถยุติได้ พญ.ธารดาว ได้เดินทางไป สภ.ถลาง เพื่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทราบว่าชายชาวต่างชาติคู่กรณีนั้นเป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างฯ
ในวันเดียวกัน เดวิดได้เข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมด้วยทนายความ โดยกล่าวอ้างว่า ตนเองนั้นสะดุดล้ม จนทำให้เท้าของเขาไปโดนหลังของ พญ.ธารดาว รวมถึงอยากแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
29 กุมภาพันธ์ 2567
พญ.ธารดาว ได้เข้าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าจะสู้เต็มที่ และขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และเห็นว่าไม่มีใครสมควรโดนกระทำแบบนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุเธอรู้สึกกังวล เนื่องจากคู่กรณีรู้จักผู้ใหญ่ และเป็นคนร่ำรวย
ขณะที่เธอเป็นเพียงแพทย์ตัวเล็กๆ เธอจึงอยากให้กฎหมายให้ความยุติธรรมกับเธอ และให้คู่กรณีที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย อยู่บนแผ่นดินไทย ให้เกียรติคนไทยในฐานะคนในพื้นที่ด้วย
วันเดียวกัน นายอำเภอถลางได้เข้าตรวจสอบแนวเขตที่ดินบริเวณวิลล่าหรูของเดวิด พบว่าเคยนำชี้ขอออกโฉนด ซึ่งปัจจุบันยังเป็น น.ส. 3ก. โดยแนวที่นำชี้คือขั้นบันไดที่ 1 ของตัววิลล่า นั่นหมายความว่าขั้นบันไดลงมา 2, 3, 4 เป็นพื้นที่สาธารณะ
การที่ พญ.ธารดาว นั่งที่บันไดขั้นล่างๆ จึงไม่ใช่การรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว และการโดนทำร้ายขณะที่เธอนั่งอยู่ในพื้นที่สาธารณะ เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งความดำเนินคดีพร้อมสั่งให้รื้อบันไดออกทันที
1 มีนาคม 2567
โลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นคลิปเหตุการณ์
โดยชายชาวต่างชาติได้เดินไปด้านหลังของผู้หญิง 2 คนที่นั่งอยู่ปลายบันได จากนั้นคนถ่ายก็เดินไปเตะพร้อมตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคายว่า “Get the fuck off”
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในโลกออนไลน์จำนวนมากแสดงความคิดเห็นว่า พฤติกรรมของชายชาวต่างชาติไม่ใช่การสะดุด แต่เป็นการกระทำที่ตั้งใจทำร้าย พญ.ธารดาว
ในเวลาต่อมา เดวิดพร้อมภรรยาชาวไทยปรากฏตัวที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวขอโทษที่แสดงกิริยาไม่น่าให้อภัย จนทำให้จังหวัดภูเก็ตต้องเสียหาย รวมถึงรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
มาเฟียต่างชาติ?
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น นำไปสู่การตั้งคำถามของประชาชนว่า ควรต้องมีการตรวจสอบกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบอาชีพในจังหวัดภูเก็ต และมีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่
สืบเนื่องจาก ธนกร วังบุญคงชนะ สส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า มีกลุ่มชาวต่างชาติเข้ามาแย่งอาชีพคนไทย และมีพฤติกรรมเป็นมาเฟีย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ธนกรจึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีและ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เร่งตรวจสอบและกวาดล้างโดยด่วน หวั่นจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
3 มีนาคม 2567
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า อยากให้ประเทศเราอยู่บนความสงบ เรื่องนี้ได้มีการบริหารจัดการกันไปแล้ว ความจริงไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง ในเรื่องการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น
เศรษฐาได้กำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าไปดูแลทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก
ขณะที่อนุทินแสดงความคิดเห็นว่า ต่างชาติทำพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว ขอยืนยันว่าจะไม่ให้มีนักเลงหรือผู้มีอิทธิพลต่างชาติมาอยู่เหนือกฎหมาย และมาประพฤติไม่ดีในประเทศไทยเป็นอันขาด
ส่วนตัวก็รับไม่ได้ ผู้มีอิทธิพลคนไทยเรายังไม่ยอม แล้วจะไปยอมให้คนต่างชาติมามีอิทธิพล มาทำตัวเป็นมาเฟียไม่ได้ “ไม่ต้องถึงมือชาดาหรอก อนุทินคนเดียวก็เอาอยู่แล้ว เดี๋ยวจะจัดการ ชาดาให้ดูแลผู้มีอิทธิพลคนไทยไป”
อนุทินกล่าวอีกว่า บ้านเรามีกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นต่างชาติคนไหนเข้ามาประเทศไทยแล้วทำตัว ‘ซ่า’ หรือ ‘แอ็กอาร์ต’ ต้องจัดการให้หมด พร้อมทั้งเสนอให้ดึงวีซ่าและหนังสือเดินทางออกทั้งหมดเพื่อจบปัญหาแล้ว
ในวันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก ‘Phuket Times ภูเก็ตไทม์’ รายงานว่า ประชาชนชาวภูเก็ตประมาณ 300 คน แสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ที่สถานที่เกิดเหตุ บริเวณแหลมยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ประณามชาวต่างชาติที่ทำร้ายผู้หญิง เขียนป้ายขับไล่ “Get out David” ร้องตรวจสอบ ขอคืนพื้นที่ชายหาดสาธารณะแก่ประชาชน พร้อมชูธงชาติไทยและร่วมร้องเพลงชาติไทย
4 มีนาคม 2567
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งให้นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองภูเก็ต, อำเภอเมืองกะทู้ และอำเภอถลาง พร้อมด้วยหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมชาวต่างชาติว่า มีใครบ้างที่เข้าข่ายมาเฟีย หรือเป็นผู้มีอิทธิพลคุกคามข่มขู่ผู้ประกอบการ หรือมีการทำผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการเพิกถอนวีซ่า ตลอดจนขึ้นบัญชีดำ เพื่อไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีก
ส่วนการเพิกถอนวีซ่านั้น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรายงานว่า เดวิดอยู่ได้ถึงวันที่ 13 มีนาคมนี้ วีซ่าจะหมดอายุ ดังนั้นก่อนวันที่ 13 มีนาคม จะพิจารณาว่าจะต่อวีซ่าให้หรือไม่
ส่วนที่ดินบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ออกคำสั่งให้มีการรื้อถอนบันไดหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีการรุกล้ำที่สาธารณะภายใน 30 วัน หากไม่มีการรื้อถอน เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะเข้าไปรื้อถอนเอง และเรียกร้องค่าเสียหายในการดำเนินการได้ รวมถึงกรณีหลักฐานการออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ จะมีการพิจารณาตามกระบวนการของหลักฐานในที่ดินต่อไป
ทั้งนี้ เกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า เดวิดถูกทางการไทยเพิกถอนวีซ่าแล้ว
ตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายนั้น เมื่อเดวิดถูกเพิกถอนวีซ่า เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเหตุผลการเพิกถอนวีซ่า ระยะเวลาที่ต้องออกจากประเทศไทย โดยทั่วไปแล้วอยู่ที่ 30 วัน หากไม่ออกจากประเทศไทยภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจถูกจับกุมและถูกเนรเทศ
อย่างไรก็ตาม เดวิดมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนวีซ่า โดยต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภายใน 30 วัน การอุทธรณ์จะได้รับการพิจารณาโดยคณะกรรมการ หากผลอุทธรณ์ไม่สำเร็จ การถูกเพิกถอนวีซ่าอาจส่งผลต่อสถานะการพำนักในประเทศไทย อาจไม่สามารถขอวีซ่าเข้าประเทศไทยใหม่ได้ หรือถูกห้ามเข้าประเทศไทยเป็นเวลา 5 ปี แล้วแต่กรณี
5 มีนาคม 2567
เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ภาค 8 จะลงพื้นที่เพื่อติดตามกรณีดังกล่าวนี้ด้วย
คนภูเก็ตทวงคืนหาดแหลมหงา
ในวันเดียวกันนี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘แหลมหงาภูเก็ต’ ได้ออกมาแฉว่า มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้ปิดกั้นทางหลวงชนบท ซึ่งเป็นถนนที่ลงไปหาดแหลมหงา ที่ประชาชนใช้เป็นทางลงไปพักผ่อนที่ชายหาดมานานหลายชั่วอายุคน พร้อมทั้งติดป้ายห้ามคนบุกรุก
นอกจากนี้ เพจดังกล่าวยังโพสต์ว่า คนภูเก็ตอย่ายอมให้นายทุนมาปิดกั้นหาดสวยงามของคนภูเก็ตและของคนไทยทั้งประเทศครับ พร้อมติด #ชาวภูเก็ตจะไม่ทน
ทั้งยังระบุอีกว่า หาดแหลมหงานั้นเป็นอีกหนึ่งหาดที่บริษัทจำกัดของนายทุนได้อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองปิดกั้นทางหลวงชนบทที่เข้าถึงหาด ไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าไปพักผ่อนชมความสวยงามของทะเลภูเก็ต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไข่มุกอันดามันที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
อ้างอิง:
- https://www.facebook.com/profile.php?id=100063061640582
- https://www.thaipbs.or.th/news/content/337696
- https://www.sanook.com/news/9268462/
- https://www.thairath.co.th/news/local/south/2767966
- https://www.facebook.com/profile.php?id=100031781988027
- https://thethaiger.com/th/news/1086715/
- https://www.facebook.com/PhuketTimeNews/posts/pfbid023A9G3XV7E6oXf2377fyS7yggS1dAibSQKKoR1WwyHCN8BXmqJTteK2YHtUxQhqxUl