วานนี้ (27 กุมภาพันธ์) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากที่มีการเร่งรัดให้ดำเนินการสำรวจที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ นครราชสีมา จากปัญหาพื้นที่ทับซ้อนว่า เจ้ากรมแผนที่ทหารได้รายงานว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากถือแผนที่คนละฉบับ ซึ่งเป็นปัญหาทั่วประเทศ หลายกระทรวง ทบวง กรมก็เกิดปัญหา โดยแนวทางในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนคือต้องทำ One Map
หากการจัดทำ One Map เสร็จเร็ว ปัญหาที่เขาใหญ่ก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ก็เร่งรัดให้การจัดทำแผนที่เสร็จโดยเร็ว ยอมรับว่าไม่ง่าย ต้องดูเรื่องความแม่นยำในหลายเรื่อง เชื่อว่าเจ้ากรมแผนที่ทหารได้ชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปร่วมกันเร็วๆ นี้ แต่จะได้ข้อสรุปอย่างไรนั้นส่วนตัวยังไม่ทราบ เพราะได้ให้ข้อมูลในเรื่องของแผนที่ ส่วนนายกฯ จะเป็นผู้สรุป
สุทินยังย้ำว่าการจัดทำ One Map จะสามารถยุติข้อขัดแย้งได้หลายเรื่อง ทั้งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ขณะที่ปัญหาที่ดินของไทยที่หมักหมมมานานและแก้ปัญหาไม่จบเนื่องจากถือแผนที่คนละฉบับ ดังนั้น One Map จะเป็นทางออก เพียงแต่จะมีความยากและต้องใช้เวลา แต่ขณะนี้การดำเนินการมีความคืบหน้าและดำเนินการแล้วเสร็จไปเกือบทั่วประเทศ เชื่อว่าจะแล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งตนเองก็ได้เร่งรัดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแล้ว
สำหรับ One Map นั้นมีชื่อเต็มว่า ‘การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4,000’ ริเริ่มในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยย้อนไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2558 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น ได้สั่งการให้กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนที่ดิจิทัล มาตราส่วน 1:4,000 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อระบุแนวเขตที่ชัดเจนระหว่างพื้นที่ป่ากับพื้นที่ทำกินของประชาชน อันเป็นการลดความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชน
หน่วยงานเหล่านั้นประกอบด้วยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการคลัง, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ปัจจุบันคือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม), กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ปัจจุบันคือกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) จากนั้นในวันที่ 22 กันยายน 2558 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแนวทาง One Map รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์ในการดำเนินการ พร้อมจัดทำคู่มือหลักเกณฑ์ 13 ข้อ สำหรับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ร่วมกัน