Griselda เป็นมินิซีรีส์ทาง Netflix ที่สร้างจากเค้าโครงชีวิตจริงของ Griselda Blanco (Sofia Vergara) ราชินีโคเคนแห่งไมอามีในช่วงปลายยุค 70-80 คำถามก็คือเธอทำได้อย่างไรในสังคมปิตาธิปไตยในโลกธุรกิจใต้ดินที่ขึ้นชื่อเรื่องความเหี้ยมโหด คำตอบคือเพราะ Griselda โหดกว่าด้วยการใช้มาตรการสุดโต่งกำจัดคู่อริจนกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญในสังคมอเมริกัน จนสร้างชื่อให้เธอกลายเป็นตำนานปรากฏอยู่ในวัฒนธรรมฮิปฮอปอยู่บ่อยครั้ง
Griselda Blanco
Griselda Blanco เกิดที่เมืองการ์ตาเฮนา ประเทศโคลอมเบีย พออายุได้ 3 ขวบก็ย้ายไปอยู่ที่เมืองเมเดยิน ศูนย์กลางยาเสพติดในยุคนั้น เมื่ออายุได้เพียง 13 ปีก็เริ่มก่ออาชญากรรมด้วยการปล้น และหนีออกจากบ้านในวัย 19 ปีเพื่อหนีการล่วงละเมิดจากพ่อเลี้ยง ช่วงเวลานี้มีเสียงร่ำลือว่าเธอหันไปค้าประเวณีแต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน Griselda มีลูกชาย 3 คนเกิดกับสามีคนแรกคือ Carlos และถูกกล่าวหาว่าสังหารเขาหลังจากที่ทั้งคู่หย่าร้างกันไม่นาน
จากนั้นก็ได้มาอยู่กินกับ Alberto นักค้ายาเสพติดที่แนะนำให้เธอเข้าสู่ธุรกิจโคเคน ทั้งคู่เคยย้ายไปใช้ชีวิตที่ควีนส์ในนิวยอร์กก่อนจะถูกฟ้องในข้อหาสมรู้ร่วมคิดเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด จนหนีกลับไปอยู่โคลอมเบีย Griselda สังหาร Alberto หลังจากทะเลาะกันรุนแรง เธอหนีไปอเมริการอีกครั้ง แต่ไปอยู่ที่ไมอามี ที่นี่เองที่เธอสร้างเครือข่ายค้ายาเสพติดจนได้ชื่อว่าเป็น The Black Widow หรือ Cocaine Godmother และพบรักกับ Dario จนให้กำเนิดลูกชายอีกคนคือ Michael Corleone Blanco ไม่นานนักทั้งคู่เลิกรากัน Dario พา Michael กลับโคลอมเบีย จนทำให้ Griselda สั่งฆ่า Dario แล้วพา Michael กลับมาอยู่ที่อเมริกา
Griselda Blanco ขึ้นชื่อเรื่องความเหี้ยมโหด และก่อสงครามระหว่างแก๊งอยู่หลายครั้ง ในขณะเดียวกันก็เป็นแม่พระของเหล่านักค้ายาเสพติดบางกลุ่ม Griselda ถูกจับกุมในปี 1985 ทั้งข้อหาค้าโคเคน และฆาตกรรมอีก 3 กระทง ในปี 2004 Griselda ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากสุขภาพ เธอย้ายกลับไปอยู่เมเดยิน และหันมาเป็นคริสเตียนผู้ศรัทธา แต่แล้วในเดือนกันยายน 2012 Griselda ก็ถูกยิงตายในร้านขายเนื้อด้วยวัย 69 ปี
สำหรับ Griselda มินิซีรีส์ทาง Netflix โฟกัสไปที่ช่วงปี 1978 หลังจากเธอสังหาร Alberto ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไม่ได้อยู่ภายใต้เงื้อมเงาผู้ชาย และเล่าเรื่องการขึ้นสู่อำนาจสูงสุดสู่จุดตกต่ำ โดยในตอนแรกฉายภาพชีวิตของ Griselda ในฐานะผู้หญิงที่ดิ้นรนหาเลี้ยงครอบครัวด้วยธุรกิจผิดกฎหมาย เธอทั้งโดนเอารัดเอาเปรียบ ดูถูก กีดกัน ในขณะเดียวกันก็เล่าเรื่องของ June Hawkins (Juliana Aidén Martinez) ตำรวจหญิงแห่งไมอามี แม้จะอยู่ในโลกสว่างแต่ก็ต้องเผชิญอคติเรื่องเพศไม่ต่างกัน
แน่นอนว่าในช่วงแรกบรรยากาศอบอวลไปด้วยเรื่องราวเพื่อนหญิงพลังหญิง ตอกย้ำชัดด้วยวิธีการที่ Griselda นำเข้าโสเภณีจากโคลอมเบียเพื่อขนยา และพัฒนาสู่พนักงานขาย เมื่อเธอพบตลาดใหม่คือ ‘คนรวยผิวขาว’ เพื่อไม่ต้องถูกผู้ชายเอาเปรียบอีกต่อไป รวมถึงการดึงเอาความอ่อนละมุนจากความเป็นแม่ แม้จะไม่ใช่คนที่เลี้ยงลูกให้ถูกทาง แต่ก็การันตีได้ว่าเธอรักลูกไม่น้อยกว่าใคร
เรื่องราวใน 3 อีพีแรก คือการฉายภาพให้เห็นคาแรกเตอร์ของ Griselda ในฐานะหญิงแกร่ง ฉลาด มีความเป็นผู้นำ และค่อยๆ พัฒนาความเหี้ยมโหดจากสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องเผชิญ หลายๆ ฉากสะท้อนถึงความอ่อนไหวเมื่อต้องฆ่าเพราะ ‘ต้องทำ’ สู่การฆ่าเพราะเป็นวิธีที่ ‘ง่ายที่สุดที่ทำได้’ ที่น่าแปลกใจคือคนดูก็แอบเผลอเอาใจช่วยเธอทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่ทำคือเรื่องที่ผิด ส่วนหนึ่งก็เพราะการสร้างภาพความเป็นฮีโร่หญิงเพื่อบรรเทาเนื้อหาความรุนแรงในเรื่องลง ในขณะที่อีกเส้นเรื่องคือการก้าวขึ้นมาเป็นที่ยอมรับของ June ในสำนักงานตำรวจ การขับเคี่ยวของผู้หญิงสองคนนี้อยู่นอกสมรภูมิเดือดๆ แต่เน้นไปที่การชิงไหวชิงพริบระหว่างกัน ที่แม้จะเป็นศัตรูคู่แค้นแต่ก็มีเพียงไม่กี่ฉากที่ทั้งคู่ได้เผชิญหน้ากันแบบตัวต่อตัว
ส่วนในพาร์ตหลังคือการเล่าเรื่องความลุแก่อำนาจของ Griselda เมื่อได้ขึ้นขี่หลังเสือก็ตามมาด้วยความหวาดระแวงจากการทรยศหักหลัง เมื่อผนวกเข้ากับปมความเป็นผู้หญิงและฤทธิ์ของยาเสพติด ยิ่งทำให้เธอเพิ่มดีกรีความรุนแรงในการจัดการเหยื่อทั้งในแบบที่มีสติและไม่มีสติ ลามไปถึงการจัดการปัญหาในครอบครัว เมื่อลูกๆ ติดอยู่ในวังวนยาเสพติดก็ยากที่จะมีชีวิตอยู่กับร่องกับรอยแบบครอบครัวอื่น นำไปสู่จุดตกต่ำที่สุดในชีวิตที่ต้องเผชิญ
ความจริงแล้วเรื่องราวของ Griselda เคยถูกนำมาสร้างเป็นหนังและซีรีส์หลายครั้ง นักแสดงดังอย่าง Catherine Zeta-Jones ก็เคยรับบทนี้ หากแต่ในเวอร์ชันล่าสุด Sofia Vergara ได้สวมวิญญาณความเป็น Griselda ได้อย่างหมดจด จากทักษะการแสดงที่ผสมผสานทั้งความเมตตาและความเหี้ยมโหดเข้าไปด้วยกัน อีกอย่างต้องขอบคุณบทสนทนาภาษาสเปนแบบไฟแลบ ที่ทำให้คนดูเชื่อได้สนิทใจว่านี่คือเจ้ใหญ่ลาติน่าตัวจริง
และแม้ว่าเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่การเล่าเรื่องตัวละครหลัก แต่นักแสดงสมทบอย่าง Martín Rodríguez ผู้มารับบท Rivi นักฆ่าคู่ใจของ Griselda ที่มาไม่บ่อยแต่เปล่งประกายทุกครั้งที่ปรากฏตัว ด้วยคาแรกเตอร์ทั้งน่ากลัว เอาแน่เอานอนไม่ได้ ซึ่งน่าเสียดายที่บทน้อยไปหน่อย
มินิซีรีส์เรื่องนี้ตอกย้ำความซับซ้อนของ Griselda Blanco โดยต้องรักษาสมดุลระหว่างพลังและความอ่อนไหว ต้องขอบคุณทีมนักแสดงและการกำกับที่นำเสนอเรื่องราวออกมาอย่างสมจริง ทั้งยังพาไปสำรวจความเป็นมนุษย์และผลสะท้อนของการตัดสินใจอันผิดพลาดอีกด้วย ทำให้เป็นมินิซีรีส์ 6 ตอนที่ลุ้นระทึกไปพร้อมๆ กับบทสรุปสุดดราม่าอย่างน่าสนใจ
ป.ล. ปัจจุบันลูกชาย 3 คนของ Griselda เสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม เหลือเพียง Michael Corleone Blanco ซึ่งกำลังทำเรื่องยื่นฟ้องทีมผู้ผลิตที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตแม่ของเขา
อ้างอิง: