Cashless Society ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
หลายคนอาจจะยังสงสัยกับคำว่า Cashless Society หรือ Cashless Economy (สังคมไร้เงินสด) คืออะไร หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือสังคมเศรษฐกิจที่มองว่าเงินสดที่จับต้องได้ในรูปแบบธนบัตรหรือเหรียญนั้นจะมีความสำคัญน้อยลง ซึ่งในปัจจุบันการใช้เงินในรูปแบบดังกล่าวนับเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้มีระบบรองรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้มาตรฐานภายใต้นโยบาย National e-Payment ซึ่งระบบดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับการใช้งานเทคโนโลยี โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือที่ขยายตัวมากขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งการที่เราโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ โอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) หรือการจองตั๋วเครื่องบิน ตั๋วหนังผ่านระบบออนไลน์แล้วชำระผ่านบัตรเดบิตหรือเครดิตก็คือส่วนหนึ่งของ Cashless Society นั่นเอง ยังไม่นับไปถึงการจ่ายเงินผ่าน QR Code หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ รวมไปถึง e-Wallet ที่กำลังเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
สังคมไร้เงิน(สด)ดีอย่างไร
แน่นอนว่าทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะการทำธุรกรรมของเรานั้นไร้ข้อจำกัด เรียกว่าทำธุรกรรมได้แบบ Anywhere, Anytime and Anybody เพราะไม่ว่าใครก็สามารถโอน จ่าย เติม ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านการทำธุรกรรมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือหรือเว็บไซต์ ไม่ต้องกังวลเรื่องการถือเงินสดเป็นจำนวนมากๆ ไว้กับตัว ไม่ต้องรอเงินทอน รวมถึงตัดปัญหาเรื่องธนบัตรปลอมที่มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ยิ่งในปัจจุบันการทำธุรกรรมออนไลน์นั้นง่ายขึ้นไปอีกขั้น เพราะธนาคารหลายแห่งได้พร้อมใจกันประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมในการโอน จ่าย เติม เมื่อทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านระบบของธนาคารต่างๆ และเมื่อความนิยมในการใช้ e-Payment สูงขึ้น จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและเพิ่มช่องทางการทำธุรกิจต่างๆ ให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของ GDP ของประเทศในอนาคตอีกด้วย
ประเทศพี่ใหญ่อย่างจีนนั้น ประชากรแทบทุกคนในประเทศแทบจะไม่แตะเงินสดกันแล้ว ทุกคนมีสมาร์ทโฟนเพื่อใช้จ่ายผ่านระบบ Mobile Payments ยอดฮิตอย่าง WeChat หรือ Alipay เพียงแค่ใช้โทรศัพท์มือถือที่มีแอปพลิเคชันชำระเงินก็สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการตามร้านค้าปลีกเล็กๆ ริมถนนไปจนถึงห้างสรรพสินค้า รวมทั้งการจ่ายค่าตั๋วรถโดยสาร รถไฟระหว่างเมือง และขนส่งมวลชนรูปแบบต่างๆ ผ่าน QR Code ของร้านค้าที่มีไว้รับชำระเงินโดยเฉพาะ หากใครเดินทางไปประเทศจีน คุณจะรู้ทันทีว่าการใช้เงินสดนั้นลำบากกว่าการใช้จ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันชำระเงินหลายเท่าตัว
การรองรับ Cashless Society ของสถาบันการเงินและหน่วยงานต่างๆ
สถาบันการเงินต่างๆ ก็เร่งปรับรูปแบบเพื่อรองรับ Cashless Society กันหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าเป็นการให้บริการในรูปแบบธุรกรรมออนไลน์ของ Internet Banking หรือ Mobile Application ต่างๆ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในธุรกิจของ e-Commerce เป็นอย่างมาก ซึ่งธุรกรรมดังกล่าวก็ไม่ได้ถูกจำกัดไว้เฉพาะในภาคเอกชนเท่านั้น เพราะในปีนี้ส่วนราชการต่างๆ ก็มีการเริ่มปรับรูปแบบของการรับชำระเงินต่างๆ มาเพื่อรองรับ Cashless Society เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการชำระค่าภาษีต่างๆ การชำระค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่ ชำระภาษีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ชำระค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดิน การทำหนังสือเดินทาง (Passport) หรืออื่นๆ ก็ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดไป เพราะสามารถใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต หรือใช้ Mobile Application ของธนาคารผ่านการสแกน QR Code เพื่อชำระค่าบริการต่างๆ ได้ทันที
บัตร ‘พร้อมจ่าย’ แม้ไม่มีบัญชีธนาคารก็พร้อมจ่ายได้ทันที
หลายคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารหรือกังวลเรื่องความยุ่งยากในการไปเปิดบัญชีที่ธนาคารก็สามารถใช้งานบัตรอิเล็กทรอนิกส์แบบเติมเงินที่ชื่อว่า ‘บัตรพร้อมจ่าย’ ของธนาคารกรุงไทย ถือบัตรใบเดียวก็สามารถรูดใช้จ่ายกับหน่วยงานภาครัฐหรือราชการต่างๆ ได้แล้ว ซึ่งข้อดีของบัตรพร้อมจ่ายใบนี้ ได้แก่
เมื่อโลกเปลี่ยน เทรนด์ของรูปแบบการใช้เงินก็เปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่งการก้าวเข้าสู่ Cashless Society อย่างสมบูรณ์แบบได้นั้นต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงธุรกิจรายใหญ่และรายย่อย ข้อดีของ Cashless Society มีมากมายขนาดนี้แล้ว คุณล่ะเตรียมพร้อมกับสังคมไร้เงิน(สด)แล้วหรือยัง
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ktb.co.th/th/personal/cards/ktb-debit-card-privileges/308