บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ออกโรงชี้แจงยืนยันว่ากลุ่มเซ็นทรัลไม่ได้เข้าลงทุนใน Selfridges หลังพันธมิตรมีปัญหา อีกทั้งมีหนี้ที่กำลังจะครบกำหนดจ่าย
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชี้แจงข่าวเกี่ยวกับกรณีพันธมิตรทางธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CRC ในห้างสรรพสินค้า Selfridges นั้น บริษัทไม่ได้รับการติดต่อจากกลุ่มเซ็นทรัลและพันธมิตรทางธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลเรื่องการลงทุนใน Selfridges Group แต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทมีหลักการในการพิจารณาโอกาสการลงทุนในธุรกิจบน 3 แกนสำคัญ คือความเหมาะสมทางด้านกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท (Strategic Fit) ราคาที่เหมาะสม และจังหวะเวลาที่สมควร รวมทั้งธุรกิจนั้นต้องสร้างประโยชน์ต่อบริษัท และหากบริษัทตัดสินใจที่จะลงทุนในกิจการใดๆ บริษัทจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนและกฎเกณฑ์ระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงสิทธิและประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกราย
ก่อนหน้านี้มีสื่อต่างประเทศรายงานว่า Cambridge Properties Holding Limited ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า Selfridges ในประเทศอังกฤษ และเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล (Central Group) และ SIGNA กำลังขอให้กลุ่มเซ็นทรัลเพิ่มเงินลงทุนใน Selfridges เนื่องจาก SIGNA ประสบปัญหาทางการเงินและยื่นล้มละลายเมื่อช่วงปลายปี 2566
โดยเอกสารที่ยื่นเพื่อการตรวจสอบบัญชีระบุว่า Cambridge Properties Holding Limited กำลังอยู่ในระหว่างการหารือกับกลุ่มเซ็นทรัลเกี่ยวกับทิศทางการเงินในอนาคต เพื่อให้สามารถชำระหนี้งวดที่กำลังจะครบกำหนด หลังจาก SIGNA Prime Selection AG ได้ยื่นล้มละลายเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566
ภาวะขาดแคลนเงินสดที่เกิดขึ้นกับห้างสรรพสินค้า Selfridges เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้ SIGNA ล่มสลายลงอย่างรวดเร็ว และสถานการณ์ดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าหุ้นส่วนทางธุรกิจบางรายมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อปัญหาของ SIGNA ในการช่วยให้ SIGNA ยังคงสถานะการลงทุนได้ต่อไป หรืออาจจะเทกโอเวอร์กิจการของ SIGNA
กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าซื้อห้างสรรพสินค้า Selfridges ร่วมกับ SIGNA ในปี 2565 และทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันครอบครองและดำเนินธุรกิจของห้างสรรพสินค้าดังกล่าวร่วมกัน
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น CRC วันนี้ (5 มกราคม) ช่วงเช้า ปิดการซื้อขายที่ 39.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดของวันซื้อ-ขายก่อนหน้า ขณะที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปล่าสุดอยู่ที่ 2.37 แสนล้านบาท