เปิดเงื่อนไขและวิธีการเข้าร่วมโครงการ ‘ลดดอกเบี้ย’ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักประกัน ให้เหลือ 3-5% ต่อปี จากระดับปกติที่ 16-25% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี โดยโครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM พร้อมตอบคำถาม ยังไม่เป็นหนี้เสีย (NPL) แต่จ่ายไม่ไหวทำอย่างไร?
คุณสมบัติผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM
- ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้
- มีอายุไม่เกิน 70 ปี
- มียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท
- เป็นหนี้เสียค้างชำระมากกว่า 120 วัน
เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาผลการสมัคร คลินิกแก้หนี้ by SAM ขอให้ลูกค้าเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการสมัคร ดังนี้
- เอกสารรายงานเครดิตบูโร
- สำเนาบัตรประชาชน
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน
- หนังสือรับรองเงินเดือน (กรณีผู้มีรายได้ประจำ) / รายการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือน / หนังสือรับรองรายได้ (กรณีอาชีพอิสระ)
เปิด 3 ทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้
- ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี
- ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี
- ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี
วิธีเข้าร่วมโครงการ
- เข้าไปที่โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน (โซนลิฟต์แก้ว) ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (BTS สถานีรัชโยธิน)
- สมัครเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์
-
- เว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com
- แอด LINE @debtclinicbysam
- Facebook คลินิกแก้หนี้ by SAM
- Call Center 1443
เปิดสถิติช่วยคนไทยลดหนี้ โดยคลินิกแก้หนี้ by SAM
ผลการดำเนินงานของโครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM ในปี 2566 (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2566 มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 17,000 ราย หรือกว่า 43,000 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นประมาณ 3,200 ล้านบาท
หากนับตั้งแต่เปิดโครงการฯ ในปี 2560 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ สะสมอยู่ที่ 52,000 ราย หรือคิดเป็น 146,000 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นที่เข้าร่วมโครงการฯ รวมแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท
ลูกหนี้บัตรเครดิตที่ยังไม่เป็น SM หรือ NPL เข้าร่วมโครงการได้หรือไม่?
กิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ระบุว่า ผู้ถือบัตรเครดิตในไทยทุกรายกว่า 23 ล้านใบ มีสิทธิเข้าร่วมโครงการนี้ ‘ทุกใบ’
อย่างไรก็ดี กิตติรัตน์กล่าวว่า ‘ลูกหนี้ที่มีสถานะปกติ’ เป็นผู้ที่ชำระหนี้ได้ดี ไม่มีปัญหา หมายความว่า เมื่อครบเดือนจ่ายหนี้ได้เต็ม ก็จะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการ
ส่วนผู้ที่เริ่มจะมีปัญหา หรือกลุ่ม Special Mention Loan: SM ที่มีหนี้ซึ่งค้างชำระระหว่าง 1-3 เดือน แต่ยังไม่ถือว่ามีหนี้เสีย (NPL) แล้วจ่ายไม่ได้แม้กระทั่งขั้นต่ำ ซึ่งกำลังมีจำนวนมากขึ้น กิตติรัตน์กล่าวว่า ‘ควรติดต่อเจ้าหนี้’ หรือธนาคารและสถาบันการเงินเจ้าของบัตรเพื่อไกล่เกลี่ย
“กลุ่ม SM ยังมีข้อโต้แย้งอยู่นิดหนึ่ง คือบางบริษัทอาจบอกว่ายังไม่เป็นหนี้เสีย ให้สู้ต่อไปเถอะ แต่ถ้าเป็นผมก็จะให้ติดต่อเจ้าของบัตร เนื่องจากเห็นอยู่ว่าลูกหนี้อยู่ในภาวะที่จ่ายไม่ไหวแล้ว จะรอให้กลายเป็นหนี้เสียก่อนหรืออย่างไร” กิตติรัตน์ระบุ
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย