AWC จับมือ CIMB Thai ลงนามสินเชื่อความยั่งยืนแรกของธนาคาร หวังขับเคลื่อนการพัฒนาตามเป้าหมาย ด้วยมูลค่า 3,000 ล้านบาท พร้อมส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ
“สำหรับการจัดสินเชื่อดังกล่าวถือเป็นสินเชื่อแรกที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของ CIMB Thai เราพร้อมร่วมสนับสนุนการดำเนินงานการพัฒนาโครงการของ AWC” มร.พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าว
นับเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ของทั้งสององค์กรในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการลงนามความร่วมมือสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability Linked Loan) มูลค่า 3,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาการดำเนินงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รวมถึงลดการใช้ทรัพยากร และส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ พร้อมนำแนวคิดด้านความยั่งยืนมาใช้ในกระบวนการพัฒนาต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของ CIMB Group ที่ได้ตั้งเป้าหมายขยายวงเงินสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนจำนวน 1 แสนล้านริงกิต (ประมาณ 7.7 แสนล้านบาท) ภายในปี 2567
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของ AWC ในฐานะผู้นำอสังหาริมทรัพย์ที่มีบทบาทสำคัญต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทย จะสามารถนำสินเชื่อนี้ไปช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวของไทยตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เป็นที่ยอมรับและเป็นแบบอย่างในระดับสากล
ด้าน วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า AWC ได้ร่วมมือกับ CIMB Thai กลุ่มการเงินชั้นนำที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งในภูมิภาค รับสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนที่ออกเป็นครั้งแรกของธนาคาร โดย AWC จะนำสินเชื่อนี้ไปสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมาย (Sustainability Performance Targets หรือ SPTs) ด้วยการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ และวัดผลตามมาตรฐานดัชนีความยั่งยืน MSCI ESG Rating ซึ่ง
AWC เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือกับ CIMB Thai เป็นการร่วมรวมพลังของพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยต่อไป
ปัจจุบัน AWC ได้รับการจัดวงเงินสินเชื่อระยะยาวที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนจากสถาบันการเงินชั้นนำกว่าร้อยละ 76 ของสินเชื่อทั้งหมด และตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนวงเงินสินเชื่อระยะยาวที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนเป็นร้อยละ 100 เพื่อมุ่งสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศ โดย AWC จะนำสินเชื่อดังกล่าวไปใช้ในการสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้กรอบการพัฒนาที่ยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงร้อยละ 20.6 เมื่อเทียบกับปี 2562 และยังได้ริเริ่มโครงการร่วมกับพันธมิตร มุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศ เช่น โครงการ ‘AWC Stay to Sustain’ เพื่อร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูต้นไม้ในป่าชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามโรดแมปสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573