ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สังคมให้ความสนใจต่อ ‘ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 พ.ศ. ….’ หรือ ‘การยุบ กอ.รมน.’ ที่เสนอโดย รอมฎอน ปันจอร์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าสู่การพิจารณาของสภา และอยู่ในระหว่างรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา
พรรคก้าวไกลมองว่า การมีอยู่ของ ‘กอ.รมน.’ ทำลายโครงสร้างรัฐซ้อนรัฐ รัฐบาลพลเรือนต้องทำให้กองทัพอยู่ห่างจากการเมือง การยุบ กอ.รมน. เป็นการพยายามทำให้ความมั่นคงเป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของพลเรือน ไม่ใช่ผูกขาดอยู่แค่กองทัพ
ด้าน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ไม่คิดยุบ กอ.รมน. แต่จะเปลี่ยนภารกิจใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยแทน ซึ่งความมั่นคงต้องรวมถึงความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจปากท้องประชาชน
สำหรับ ‘กอ.รมน.’ เป็นหน่วยงานของรัฐในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี แปรสภาพจากกองอำนวยการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์ (กอ.ปค.) ในปี 2516 ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานกลางเพื่อต่อต้านภัยคุกคามที่มุ่งทำลายผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ
และในวันนี้ (1 พฤศจิกายน) เพจเฟซบุ๊ก คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ย้อนหลังไป 4 ปี ในยุครัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างปี 2563-2566 รวมทั้งสิ้น 34,285,536,700 บาท
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย