วันนี้ (3 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่มีการประกาศเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ได้ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศไว้อย่างไรว่า มีครับ และจากการพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวานนี้ มีการพูดคุยถึงระยะกลางและระยะยาว ว่าถ้านโยบายออกไปแล้วจะเป็นอย่างไร รวมถึงเครดิตเรตติ้ง และภาพที่ประชาชนและนักลงทุนต่างประเทศจะกลับมาเป็นอย่างไร ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ให้คำแนะนำและให้แนวทางรัฐบาลว่าควรทำอย่างไร และจากการไปกระทรวงการคลังเมื่อวานนี้ได้หารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง และอธิบดีกรมต่างๆ ในกระทรวงการคลัง ซึ่งก็น้อมรับไปพิจารณาหารือกัน
เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉินในอนาคตจะสามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนได้หรือไม่ว่าจะมีเงินสำรอง เศรษฐาย้ำว่า มั่นใจในสถานะการเงินกลางคลังของประเทศว่ามีความแข็งแรง
ส่วนกรณีที่ให้นโยบายในการประชุมการจัดทำงบประมาณปี 2567 ให้กองทัพชะลอการซื้ออาวุธในโครงการใหม่ไว้ก่อนนั้น เศรษฐาระบุว่า การใช้งบต้องมีประสิทธิภาพสูงสุด อะไรที่ใช้ไปแล้วไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรจะใช้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของกองทัพเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงกระทรวงไหน กรมไหน เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะทุกกระทรวงต้องให้ความสำคัญในการใช้งบประมาณ
เมื่อถามว่าในเบื้องต้นได้วางไว้หรือไม่ว่าโครงการอะไรไม่ควรอยู่ในยุครัฐบาลนี้ เศรษฐากล่าวว่า ไม่มี ตนให้เกียรติเจ้ากระทรวงไปพูดคุย เพราะจะซื้ออะไรก็ต้องผ่านมาที่คณะรัฐมนตรีอยู่ดี แต่มีการสั่งการไปแล้วว่าให้ดูให้ดี คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน