วันนี้ (25 กันยายน) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา หรือ วีซ่าฟรี ที่เดินทางมาโดยสายการบิน Thai AirAsia X เที่ยวบิน XJ 761 เส้นทางเซี่ยงไฮ้-สุวรรณภูมิ โดยมี หานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย, สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลาประมาณ 10.15 น. ที่บริเวณสะพานเทียบเครื่องบินที่ D4 นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับ พร้อมมอบของที่ระลึก ประกอบด้วย พวงมาลัยกล้วยไม้ และกางเกงช้าง กับนักท่องเที่ยวทุกคน เศรษฐากล่าวภายหลังให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน มั่นใจนโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้ายจนการเดินทางกลับต้องปลอดภัย และประทับใจในการต้อนรับอย่างดีจากคนไทยทุกคน
จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่า มีนักท่องเที่ยวบุ๊กกิ้งเข้ามาเยอะมากถึง 10 เท่า พร้อมกันนี้เราต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวไทยไม่ใช่แค่เมืองหลักเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ได้พูดคุยกับผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ว่าจะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวเมืองรองมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้ระยะเวลาการอยู่ประเทศไทยยาวขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบการเข้าเมือง พบว่าคิวที่เข้ามา ตม. รวมถึงการรับกระเป๋าเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยหวังว่าหลังจากนี้จะมีนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการแสดงหุ่นละครเล็ก และรำกลองยาว เพื่อสร้างความคึกคักและความประทับใจตั้งแต่เดินทางถึงด้วยมิตรไมตรีอย่างอบอุ่น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่น ส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่า และความหมายในทุกๆ ครั้งที่มาเยือน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่า มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราจะสามารถกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนในช่วง 5 เดือน ให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้ประมาณ 2,888,500 คน สร้างรายได้ 140,313 ล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวคาซัคสถานในช่วง 5 เดือน จะมีจำนวนประมาณ 129,485 คน สร้างรายได้ 7,930 ล้านบาท
โดยรัฐบาลเชื่อมั่นว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยคลี่คลายข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่าย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว กลุ่มทัวร์ และกลุ่ม Incentive ประกอบกับช่วงเวลาดำเนินมาตรการถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ครอบคลุมช่วง Golden Week ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องถึงช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ จะยิ่งช่วยผลักดันสู่เป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ตั้งไว้ของปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30 ล้านคน และสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศให้กลับมาในอัตราร้อยละ 80 ของปี 2562 ที่ 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายรายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท