วันนี้ (7 กันยายน) พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ให้การต้อนรับ พร้อมสัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทางตอนใต้ของเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ว่าได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแพร่กระจายของคราบน้ำมันที่ต้องเน้นการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเพื่อตรวจสอบการขยายวงกว้างของคราบน้ำมันที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเลที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพประมงชายฝั่ง
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้มีการจัดทำแผนแม่บท โดยเฉพาะการถอดบทเรียนกรณีการรั่วไหลของน้ำมันในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซาก เพราะคราบน้ำมันจะมีผลต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาและสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในฤดูหนาวของทุกปี ซึ่งได้ให้มีการเตรียมแผนป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น โดยตั้งเป้าให้มีการแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นให้เกิดการบูรณาการของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการช่วยเหลือประชาชนและการดูแลสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นและเกิดความยั่งยืน
พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวต่อว่า ในฐานะที่ต้องมารับผิดชอบงานบริหารราชการต่อจาก พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้มีข้อสั่งการเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ แต่ให้เป็นความรับผิดชอบในการดูแลตามหน้าที่ให้ดีที่สุด และไม่มีความกังวลในการมาบริหารงานที่นี้ เพราะกระทรวงไม่ได้มีปัญหาอะไร เนื่องจากข้าราชการกระทรวงนี้มีความรู้ความสามารถในการดูแลและรับผิดชอบในหน้าที่ดีอยู่แล้ว