สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินชั้นนำของโลก JPMorgan ประเมินว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในปัจจุบันเริ่มมี Downside จำกัด ขาลงของตลาดคริปโตอาจกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว หลังนักลงทุนส่วนมากที่โดนล้างพอร์ตจากการเปิดสถานะ Long ในคริปโตเริ่มหมดลงไปแล้ว
โดยนักวิเคราะห์ของ JPMorgan ยังประเมินจาก Open Interest (สถานะสัญญาล่วงหน้าคงค้าง) ของสัญญาล่วงหน้าใน Bitcoin (Futures) ในตลาด Chicago Mercantile Exchange (CME) ที่กำลังมีทิศทางปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังบ่งชี้ว่าเทรนด์ขาลงของ Bitcoin กำลังจะหมดลง
ซึ่ง Open Interest นั้นมักถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้ของสัญญาล่วงหน้าในสินทรัพย์หนึ่งๆ ที่มักใช้ในการประเมินแนวโน้มและทิศทางของราคาสินทรัพย์ต่างๆ
และหากพิจารณาในฝั่งพัฒนาการเชิงบวกของตลาดคริปโตก็จะเห็นได้ว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่อย่าง BlackRock, Fidelity, ARK Invest, 21Shares และอีกหลายกองทุนต่างยื่นขออนุมัติ ETF Spot Bitcoin ต่อ ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีประเด็นการชนะคดีของ Ripple Labs ต่อ ก.ล.ต.สหรัฐฯ หลังมีการฟ้องร้องกันมาหลายปีเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้รับการลงทะเบียน ซึ่งนับว่าเป็นพัฒนาการเชิงบวกต่อตลาดคริปโตเช่นกัน
แต่ทั้งนี้เองด้วยพัฒนาการในตลาดที่เริ่มชะลอตัว ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาของเหรียญคริปโตต่างก็ปรับตัวลงมา โดยในช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 สิงหาคม) จากข้อมูลของ Cointelegraph Markets พบว่า Bitcoin ปิดราคาไปที่ 26,000 ดอลลาร์ คิดเป็นการปรับตัวลงมากว่า 11.27% ในรอบ 30 วัน
ซึ่งทีมนักวิเคราะห์จาก JPMorgan มองว่าประเด็นทางด้านกฎหมายที่ยังไม่แน่นอนในตลาดคริปโต ณ ขณะนี้ ก็ยังมีผลต่อพัฒนาการขั้นต่อไปที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในอนาคต
ประกอบเข้ากับความไม่แน่นอนจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อ หรือประเทศจีนที่กำลังเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ เป็นต้น ก็มีผลต่อการกดดันทิศทางของตลาดคริปโตเช่นกัน
อ้างอิง:
