พาฟโล โอเรล อุปทูตยูเครนประจำประเทศไทย แถลงข่าวเนื่องในโอกาสวันชาติ หรือวันประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตครบรอบ 32 ปี ในวันนี้ (24 สิงหาคม) ร่วมกับ โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ณ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ถนนวิทยุ
โดยอุปทูตโอเรลประกาศอย่างหนักแน่นว่าชาวยูเครนมีความภาคภูมิใจต่อยูเครนยุคสมัยใหม่ เนื่องจากการต่อสู้เพื่อเอกราชนั้นเป็นการเดินทางที่ท้าทายและยาวนาน และยังคงดำเนินอยู่ พร้อมกันนี้ยังกล่าวชื่นชมไทยที่เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ให้การยอมรับยูเครนในฐานะรัฐเอกราชเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1991
ถ้อยแถลงของยูเครนมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์สงครามจากการรุกรานของรัสเซียที่ยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 18
โดยอุปทูตโอเรลชี้ว่า ประเทศของเขากำลังปกป้องเอกราชและอธิปไตยเหนือดินแดน และประณามว่าสงครามที่เกิดขึ้นโดยปราศจากการยั่วยุครั้งนี้ เกิดจากความทะเยอทะยานของแนวคิดล่าอาณานิคมในยุคใหม่ของรัฐบาลเครมลิน
“ตอนนี้ประเทศของผมถูกดึงเข้าสู่การสู้รบที่ตึงเครียดกับรัสเซีย เพื่อรักษาอธิปไตยเหนือดินแดนและเอกราชทางการเมืองของเรา แต่สงครามวันนี้ที่เกิดขึ้นโดยปราศจากการยั่วยุและป่าเถื่อน โดยความทะเยอทะยานของแนวคิดล่าอาณานิคมยุคใหม่ของรัฐบาลเครมลิน เป็นเพียงสงครามล่าสุดในประวัติศาสตร์การต่อสู้อันยาวนานเหนือดินแดนยูเครนและการคงอยู่ของยูเครนในฐานะชาติอธิปไตย”
นอกจากนี้เขากล่าวว่า ชาวยูเครนยังคงยืนหยัดต่อสู้ ไม่เพียงเพื่อเอกราชและเสรีภาพ แต่เพื่อการดำรงอยู่ในความเป็นชาติ ซึ่งแม้จะเผชิญกับความชั่วร้ายและการทำลายล้างโดยรัสเซีย แต่ประชาชนยูเครนกลับมีความสามัคคี แข็งแกร่งและอดทนมากขึ้น และมีความมั่นใจว่าจะมีชัยชนะเหนือผู้รุกราน
ซึ่งชัยชนะของยูเครนหมายถึงการปลดปล่อยดินแดนยูเครนทั้งหมดจากการยึดครองของรัสเซีย ฟื้นฟูอธิปไตยของยูเครนอย่างสมบูรณ์แบบภายใต้การรับรองของนานาชาติ และช่วยให้ชาวยูเครนที่ถูกรัสเซียจับไปได้กลับประเทศ
อุปทูตยูเครนยังประกาศว่า แผนของรัสเซียที่จะยึดครองยูเครนทั้งประเทศ ตลอดจนทำลายความเป็นรัฐและตัวตนของยูเครนนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น และชี้ว่ายูเครนนั้นยืนหยัดอยู่กับความจริง โดยมีนานาประเทศทั่วโลกส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนเพื่อฟันฝ่าไปสู่สันติภาพ
ทางด้านเอกอัครราชทูตโกเดคของสหรัฐฯ กล่าวยกย่องความกล้าหาญของรัฐบาลและประชาชนยูเครน ที่ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งในการเผชิญหน้าการรุกรานอย่างไม่ลดละของรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
โดยสหรัฐฯ ยังยืนยันในความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเอกราชและอธิปไตยของยูเครน และชี้ว่ารัสเซียนั้นเป็นเพียงอุปสรรคเดียวที่ขัดขวางสันติภาพของยูเครน และเป็นรัสเซียฝ่ายเดียวที่สามารถยุติสงครามได้ทันทีในวันนี้
“ผมคิดว่ารัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน ได้แสดงความมุ่งมั่นของเราอย่างดีที่สุด เมื่อเขากล่าวว่าในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ เรามีหนทางเดินหน้าที่ชัดเจน คือการช่วยเหลือยูเครนปกป้องตนเอง และสนับสนุนประชาชนยูเครน” เอกอัครราชทูตโกเดคกล่าว พร้อมยืนยันว่าสหรัฐฯ จะยืนเคียงข้างยูเครนและประชาชนยูเครนต่อไปตราบนานเท่านาน