×

‘เศรษฐา’ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาปมที่ดินแสนสิริ ขอ ‘ชูวิทย์’ อย่าบิดเบือน แฉกลับโดนข่มขู่เหตุไม่ซื้อที่ดินซอยสุขุมวิท 24

โดย THE STANDARD TEAM
18.08.2023
  • LOADING...
เศรษฐา ทวีสิน

วันนี้ (18 สิงหาคม) เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้บริหารบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยแพร่คลิปลงเฟซบุ๊กชี้แจง กรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การซื้อขายที่ดินของบริษัทแสนสิริและเรื่องนอมินี เพื่อเบียดบังผลประโยชน์ของรัฐ หรือแสวงหาประโยชน์เป็นการส่วนตัว  

 

โดยเศรษฐาปฏิเสธข้อกล่าวหาในทุกกรณีที่ชูวิทย์นำมากล่าวอ้าง พร้อมระบุว่า เต็มไปด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแปลงสารสิน หรือที่ดินซอยทองหล่อ ยืนยันว่าไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการบริหารภายในของฝ่ายผู้ขายได้ในทุกขั้นตอน  

 

ส่วนฝั่งผู้ซื้อ เศรษฐายืนยันว่า ไม่มีนอมินี ไม่มีการปล่อยกู้ให้ผู้ขาย ความจริงเป็นการจดจำนองเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาและห้ามผิดสัญญาของบริษัทผู้ขาย และประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนเงิน 1 พันล้านบาท มีหลักฐานชัดเจน ไม่มีการทำสัญญากู้ อีกทั้งไม่มีการสมคบคิดใดๆ และไม่เคยมีเงินทอนใดๆ

 

เศรษฐาระบุอีกว่า ผ่านมา 10 เดือนแล้ว ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว จนมาถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ข่าวออกเรื่องมติพรรคเสนอชื่อตนในสภาเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ตนถูกข่มขู่ โดยชูวิทย์ได้ฝากข้อความผ่านคนใกล้ชิดมาสั่งให้ตนมัดจำเงินเพื่อซื้อที่ดินของชูวิทย์และทำ MOU แบบไม่มีเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดิน ส่วนตัวไม่ได้ทำอะไรผิด ชูวิทย์ไม่มีสิทธิ์มาข่มขู่ตน 

 

“คุณชูวิทย์ต้องใช้ความจริงที่ไม่บิดเบือน คุณโกรธเคืองที่บริษัทไม่ซื้อที่ดินคุณที่ซอยสุขุมวิท 24 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เราตกลงกันจากราคา 2 พันล้านบาท เหลือ 1.8 พันล้านบาท แต่ที่ดินคุณมีเงื่อนไขติดพันกับบริษัท ไรมอน แลนด์ แสนสิริไม่สามารถซื้อที่ดินที่มีนิติกรรมซ้อนได้ คุณไม่พอใจ แต่เพราะเงื่อนไขของที่ดินคุณเอง แสนสิริเป็นบริษัทมหาชน ผมทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด 100% และไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย รวมถึงไม่ผิดจริยธรรมใดๆ” เศรษฐากล่าว

 

นอกจากนี้เศรษฐายังระบุด้วยว่า ชูวิทย์จะทำทุกอย่างเพื่อให้ตนไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าจะไม่ให้แฉ ตนต้องตกลงซื้อที่ดินราคา 2 พันล้านบาททันทีแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่อย่างนั้นชูวิทย์จะเดินหน้าดิสเครดิตและด้อยค่าตนต่อไป   

 

เศรษฐาระบุอีกว่า ชูวิทย์ยังบิดเบือนข้อมูล Digital Wallet ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นนโยบายฟอกเงินผ่านทางเงินดิจิทัล ยืนยันโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี มีผลประโยชน์ต่อประเทศอย่างมาก และการที่ตนเองออกมาพูดในครั้งนี้ มั่นใจว่าชูวิทย์จะไม่พอใจและอาจจะไปฟ้องที่ศาล ตนพร้อมที่จะนำพยานหลักฐานไปสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

 

เศรษฐายังระบุว่า ชีวิตของตนเองตรวจสอบได้หมดทุกอย่าง มีหลายคนเตือนว่าอย่ามาทำงานการเมืองทำให้เปลืองตัว ขอขอบคุณในความหวังดี แต่วันนี้ตนได้ตัดสินใจแล้ว เพราะอยากทำให้ประเทศชาติและเศรษฐกิจดีขึ้น เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมั่นใจที่จะทำเพื่อประเทศชาติเหมือนเดิม พร้อมย้ำศัตรูของตนเองคือความยากจน ความไม่เสมอภาคของประชาชน และส่วนตัวมีเป้าหมายคือความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X