JPMorgan สถาบันการเงินชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของบรรดาบริษัทในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก โดยมีสาเหตุหลักมาจากความกลัวต่อกรณีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน จากการผิดนัดชำระหนี้ของ Country Garden ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะกระจายลุกลามทั่วเศรษฐกิจจีนเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ JPMorgan ได้เพิ่มคาดการณ์การผิดนัดชำระหนี้ทั่วโลกในปี 2023 จากเดิม 6% เป็น 9.7% นอกจากนี้ยังเพิ่มการคาดการณ์ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้จากผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในภูมิภาคเอเชีย จาก 4.1% เป็น 10% โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 1% หากตัดภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนออกไป
ขณะเดียวกันยังคาดว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนจะมีสัดส่วนเกือบ 40% ของปริมาณการผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมดในปี 2023 ตามด้วยอันดับ 2 คือบริษัทรัสเซียที่ 35% และบราซิลที่ 12%
นักวิเคราะห์มองว่า ขนาดของการประเมินความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นของ JPMorgan ถือเป็นการตอกย้ำความกลัวที่ว่า การผิดนัดชำระหนี้ของ Country Garden จะส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและเศรษฐกิจในวงกว้างของทั้งจีนและภูมิภาคเอเชีย
รายงานระบุว่า สถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของ Country Garden มีผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจในวงกว้างกว่ากรณีของ China Evergrande Group ซึ่งผิดนัดชำระหนี้ในปี 2021 และยังมีผลกระทบกว้างขวางกว่ากรณีที่มีการประกาศโครงการปรับโครงสร้างหนี้ในต่างประเทศในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเผชิญกับความปั่นป่วนมาตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลจีนเริ่มยกระดับการกำกับดูแลระดับหนี้ของบรรดานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ หลังจากที่ช่วงหลายปีก่อนหน้านี้เติบโตอย่างเฟื่องฟูจนนำไปสู่การสร้าง ‘เมืองผี’ หรือเมืองร้าง ที่หมายถึงการที่อุปทานบ้านมีมากกว่าความต้องการบ้านของผู้บริโภคในตลาด เนื่องจากนักพัฒนามองหาประโยชน์จากความต้องการในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
รายงานระบุว่า ภายใต้นโยบายคุมเข้มของจีนที่รู้จักกันดีว่า นโยบาย ‘Three Red Lines’ ได้ชี้ให้เห็นถึงเงื่อนไขเฉพาะ 3 ประการในงบดุลที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องปฏิบัติตามหากต้องการขยายวงเงินหนี้เพิ่มขึ้น โดยกฎดังกล่าวกำหนดให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องจำกัดหนี้สินให้สัมพันธ์กับกระแสเงินสด สินทรัพย์ และระดับเงินทุนของบริษัท
แม้จะมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจจีน แต่การคุมเข้มภาคอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวจะส่งผลต่อการเติบโตเช่นกัน เนื่องจากภาคส่วนอสังหาริมทรัพย์นี้มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจจีน โดยคิดเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากถึง 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (16 สิงหาคม) สำนักข่าว Reuters ได้คำนวณโดยอาศัยข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน พบว่าราคาบ้านใหม่ของจีนลดลงเป็นครั้งแรกในปีนี้ในเดือนกรกฎาคม โดยลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า และลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน
ในส่วนของ Country Garden หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีน มีเวลาจนถึงต้นเดือนกันยายนในการชำระหนี้ที่ผิดนัดไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัทยังระงับการซื้อ-ขายพันธบัตรในประเทศ 11 รายการ และออกคำเตือนว่า ในช่วงหนึ่งปีครึ่งนี้บริษัทคาดว่าจะขาดทุนสูงถึง 5.5 หมื่นล้านหยวน
JPMorgan กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้ของ Country Garden สามารถเพิ่มมูลค่าการผิดนัดชำระหนี้ในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกถึง 9.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปัจจุบันหากนับรวมการผิดนัดชำระหนี้ขององค์กรที่ให้ผลตอบแทนสูง จะทำให้ปริมาณการผิดนัดชำระทั้งหมดสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023
นอกจากนี้ยังประมาณการว่า การผิดนัดชำระหนี้ของ Country Garden อาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายย่อยของจีนที่ยังเหลืออยู่ และอีก 2 พันล้านดอลลาร์สำหรับ ‘การบริหารจัดการหนี้สินบางส่วน’ จากการรั่วไหลไปยังภาคส่วนอื่นๆ ของจีนที่ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกัน
ขณะเดียวกัน JPMorgan ยังเพิ่มคาดการณ์การผิดนัดชำระหนี้ในลาตินอเมริกา จาก 6.6% เป็น 7.1% โดยเป็นผลจากการที่ Odebrecht Engenharia e Constracao นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบราซิล มีแนวโน้มที่จะต้องเริ่มดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้อีกรอบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนคาดการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของยุโรปเพิ่มขึ้นจาก 15.7% เป็น 23.4% เนื่องจากการผิดนัดชำระหุ้นกู้ของรัสเซียส่วนใหญ่เป็นการผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิค เพราะการคว่ำบาตรจากสงครามของรัสเซียในยูเครนทำให้บริษัทต่างๆ ไม่สามารถชำระเงินกู้ให้กับนักลงทุนต่างชาติได้
อ้างอิง: