ในช่วงการรายงานผลประกอบการของสัปดาห์ที่ผ่านมา (4 สิงหาคม) ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple เผยว่า บริษัทมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ไปแล้วกว่า 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท มาเป็นเวลาหลายปี
โดยทิมชี้ว่า Apple จะมีการลงทุนเกี่ยวกับ AI มากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลาต่อจากนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้นได้
เขายังย้ำเพิ่มเติมอีกด้วยว่า AI และ Machine Learning กำลังพัฒนาและเชื่อมต่อเข้ากับทุกบริการของ Apple หลังจากที่โดนถามเกี่ยวกับแผนด้าน AI มาอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทำไม Apple ไม่ค่อยพูดถึง AI เท่าไรนัก สวนทางคู่แข่งอย่าง Google, Microsoft และ Facebook ที่พูดถึงอยู่เป็นระยะ
- ลงสนาม AI เต็มตัวแล้ว? ‘Apple’ กำลังเร่งทดสอบ AI ของตัวเองที่มีลักษณะคล้ายกับ ChatGPT
โดยในปี 2023 Apple จัดสรรค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาทเลยทีเดียว
ตรงข้ามกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อื่นๆ อย่างเช่น Google, Meta หรือ Microsoft ที่มีการประกาศผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI มาให้ผู้ใช้งานได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง
แต่ Apple เคลื่อนไหวในด้านเทคโนโลยีต่างๆ อย่างระมัดระวัง และรอให้สิ่งเหล่านั้นเข้าสู่ตลาดอย่างมั่นใจก่อนค่อยประกาศออกไป
แม้ในงาน Worldwide Developer Conference (WWDC) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Apple จะไม่เคยกล่าวถึง AI เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า Apple กำลังเพิกเฉยต่อเทคโนโลยีดังกล่าว
เพราะในช่วงที่ผ่านมาก็มีข่าวว่า Apple กำลังพัฒนาแชตบอตอย่าง AppleGPT ไว้ใช้กันภายในอยู่เช่นกัน และการกล่าวถึง Generative AI ของ ทิม คุก ในภายหลังก็ทำให้คาดเดากันได้ว่าอาจเห็นบริการที่เหมือนกัน ChatGPT ในอนาคตอันใกล้นี้
ในปีนี้คำว่า Generative AI ถูกนำไปกล่าวกันอย่างมากมายจนเป็นกระแส แต่ทาง ทิม คุก ก็มีการนำเทคโนโลยี AI ในรูปแบบอื่นเข้าไปในสินค้าของ Apple หลายตัว อย่างเช่น Crash Detection ใน iPhone และ Personal Voice ใน iOS 17
อ้างอิง: