ชาวญี่ปุ่นเตรียมเฮ! หลังคณะกรรมการที่ปรึกษาของกระทรวงแรงงานเตรียมเสนอเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำโดยเฉลี่ยทั่วประเทศ 41 เยน หรือ 4.3% จาก 961 เยนในปัจจุบัน สู่ระดับ 1,002 เยนต่อชั่วโมง โดยถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 1991
Nikkei Asia รายงานว่า นโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำดังกล่าวก็เพื่อรองรับอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นที่ได้ปรับตัวสูงขึ้น โดยค่าจ้างงานที่เป็นเงินสดของกลุ่มแรงงานทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนพฤษภาคม แต่ลดลง 1.2% เมื่อมีการปรับตามเงินเฟ้อ
ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่าจะสามารถกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้ โดยมีแผนจะใช้อัตราค่าแรงขั้นต่ำชุดใหม่ประมาณเดือนตุลาคม ปี 2023
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ถึงกระนั้นค่าแรงในโตเกียว คานางาวะ และโอซาก้า ได้พุ่งขึ้นถึง 1,000 เยนต่อชั่วโมงภายในปีงบประมาณ 2022 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปีนี้จะครอบคลุมทั่วประเทศ
“เรายินดีสร้างการเปลี่ยนแปลง และพร้อมเดินหน้าผลักดันนโยบายเพื่อช่วยให้ธุรกิจเพิ่มผลผลิตและบริหารต้นทุนแรงงาน เพื่อให้อัตราค่าจ้างที่สูงขึ้นขยายไปถึงธุรกิจรายเล็กๆ ได้” ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจะช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานให้ธุรกิจการบริการทั้งร้านอาหารและโรงแรมที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก แต่อีกด้านหนึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจที่ต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้น และต้องไปเพิ่มความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น
ขณะเดียวกันดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่น ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด เติบโต 3% แต่ค่าจ้างหดตัวลง 0.9% ทำให้สหภาพแรงงานในญี่ปุ่นต้องเร่งเข้าไปเจรจากับบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในสหภาพแรงงาน
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ประเทศอื่นๆ ก็เริ่มปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเช่นเดียวกัน เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม โรมาเนียขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 17.6% ตามมาด้วยเดือนกรกฎาคม ออสเตรเลียขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 8.7% และตุรกีที่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 34% เพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อ้างอิง: