ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน เปิดเผยว่ามีสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ถูกสังหารไปแล้วอย่างน้อย 21,000 นาย นับตั้งแต่ที่สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียเปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 จนถึงปัจจุบัน
เซเลนสกีกล่าวกับผู้สื่อข่าววานนี้ (1 กรกฎาคม) ว่ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์เผชิญกับ ‘การสูญเสียอย่างมหาศาล’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมรภูมิรบทางตะวันออกของยูเครน “กองกำลังของเราสังหารทหารวากเนอร์แล้ว 21,000 นายเฉพาะในทางตะวันออกของยูเครน” พร้อมระบุด้วยว่ามีทหารวากเนอร์อีกราว 80,000 นายที่ได้รับบาดเจ็บ
คำกล่าวของเซเลนสกีมีขึ้น หลังเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เยฟเกนี ปริโกชิน ผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ได้ก่อการกบฏด้วยการสั่งเคลื่อนกำลังพลบุกกรุงมอสโกของรัสเซีย ส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียดอย่างหนักในช่วง 24 ชั่วโมง ก่อนที่ทุกฝ่ายจะสามารถตกลงกันได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีเหตุนองเลือดเกิดขึ้น ซึ่งในเวลานั้นปริโกชินกล่าวว่าเขาตัดสินใจระงับปฏิบัติการเพื่อไม่ให้ฝ่ายใดต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และยินยอมที่จะเดินทางลี้ภัยไปยังเบลารุสตามข้อเสนอแนะของประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ที่เข้ามาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม อนาคตของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ในขณะนี้ก็ยังคงไม่แน่นอน แม้ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย จะเปิดโอกาสให้สมาชิกกลุ่มวากเนอร์ที่รักชาติสามารถเซ็นสัญญาอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ พร้อมทั้งอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัวได้ถ้าหากพวกเขาต้องการก็ตาม
เซเลนสกีกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การก่อกบฏของปริโกชิน ‘ส่งผลกระทบต่ออำนาจในสนามรบของรัสเซียอย่างมาก’ และอาจเป็นผลดีกับแผนการโจมตีตอบโต้กลับของยูเครนด้วย โดยระบุว่า “เราต้องคว้าโอกาสจากสถานการณ์นี้มาเพื่อขับไล่ศัตรูของเราออกจากแผ่นดิน
“พวกเขากำลังพ่ายแพ้ พวกเขาจะไม่ได้รับชัยชนะในสมรภูมิรบของยูเครนอีกแล้ว และพวกเขากำลังพยายามมองหาใครสักคนมาเป็นแพะรับบาป” เซเลนสกีกล่าว
เมื่อนักข่าวถามเซเลนสกีว่า เขากลัวว่าตัวเองจะเจอกับภัยอันตรายจนถึงแก่ชีวิตหรือไม่นั้น เซเลนสกีตอบว่า “ผมคิดว่าสถานการณ์ของปูตินอันตรายกว่าผมมาก เพราะมีแค่คนในรัสเซียที่ต้องการจะฆ่าผม ขณะที่โลกทั้งโลกต้องการฆ่าปูติน”
แฟ้มภาพ: Valentyna Polishchuk / Global Images Ukraine via Getty Images
อ้างอิง: