หลังจากเดนเวอร์ นักเก็ตส์ พิชิตไมอามี่ ฮีต ครองแชมป์ NBA ครั้งแรกของแฟรนไชส์ตั้งแต่เข้าสู่ NBA 47 ปีก่อน
ชื่อของ สแตน ครองกี้ อภิอัครมหาเศรษฐีวัย 75 ปีก็ปรากฏสู่สายตาแฟนกีฬาอีกครั้ง
ในรอบ 18 เดือน เขาได้ฉลองแชมป์ไม่รู้เบื่อ จากความสำเร็จของทีมในเครือครองกี้ สปอร์ตส แอนด์ เอนเทอร์เทนเม้นท์ เริ่มจากแอลเอ แรมส์ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์, โคโลราโด้ อวาล้านช์ ทีมฮอกกี้น้ำแข็ง คว้าแชมป์สแตนลีย์คัพ, โคโลราโด้ แมมมอธ คว้าแชมป์ลีกลาครอสส์ ตบท้ายด้วยนักเก็ตส์ คว้าแชมป์แลร์รีโอไบรอันโทรฟี่
“สู้กันสนุกมาก” ครองกี้ซึ่งปกติไม่ค่อยให้สัมภาษณ์ กล่าวชมไมอามี่ ฮีต ทีมคู่แข่ง
“พวกเขาเล่นกันสไตล์นั้นอย่างทรหด เป็นองค์กรยอดเยี่ยม มีโค้ชสุดยอด แพท ไรลี่ย์ (ประธานทีม) ก็น่าอัศจรรย์ อิทธิพลของเขาที่มีต่อบาสเกตบอลและแชมเปียนมากมายมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาชาญฉลาดกับทุกเรื่องแค่ไหน
“แต่ขนาดต้องวิ่งสู้ฟัดกันขนาดนั้น ลูกทีมผมยังสามารถลงไปต้านทานอย่างทรหดและเอาชนะมาได้ ต้องถือว่าสุดยอด”
นี่ถ้าอาร์เซนอลไม่แผ่วช่วงโค้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกล่ะก็ ชื่อเสียงของเขาคงขจรขจายไปถึงทวีปยุโรปอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่สำหรับชาวเมืองเซนต์หลุยส์แล้ว ชายคนนี้คือศัตรูตัวฉกาจ หลังจากถอนรากถอนโคนทีมแรมส์ออกมาจากที่นั่น เพราะเห็นลู่ทางทำกำไรได้น้อยกว่าแอลเอ
ท้ายที่สุดครองกี้ยังต้องจ่ายให้เซนต์หลุยส์ถึง 571 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 2 หมื่นล้านบาท) เพราะ NFL ต้องการยุติข้อพิพาทกับเมือง
อย่างไรก็ตาม ในฐานะประธานครองกี้ สปอร์ตส แอนด์ เอนเทอร์เทนเม้นท์ แล้ว คงไม่กระเทือนแต่อย่างใด
เมื่อต้นปี Forbes นิตยสารที่ทรงอิทธิพลทางด้านการเงิน ประเมินบริษัทของเขาว่า มีมูลค่าแพงถึง 12,750 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.46 แสนล้านบาท)
นอกจากทีมกีฬาที่เอ่ยมาทั้งหมด ก็ยังครอบครองโคโลราโด้ แรพิดส์ ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ อีกราย, ทีมบอลหญิงอาร์เซนอล และกีฬาอีสปอร์ตสอีก 2 ทีม
“ก็เหมือนกับลูกๆ นั่นแหละ คุณรักพวกเขาทั้งหมด” ครองกี้พูดถึงทีมกีฬามากมายของตัวเอง
ไหนจะอสังหาริมทรัพย์ที่แฟรนไชส์ของเขาตั้งอยู่ เช่น บอลล์อารีนา หรือเอมิเรตส์สเตเดียม
ทีเด็ดสุดก็คือโซไฟสเตเดียมมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.75 แสนล้านบาท) ใหญ่โตกว่าดิสนีย์แลนด์พาร์กถึง 3 เท่าครึ่ง
เอ็นเอฟแอล มีเดีย ย้ายสำนักงานมาเช่าใช้สถานที่ ไหนจะยังเตรียมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนในอนาคตและบอลโลก 2026
American Airlines ยอมจ่ายถึง 90 ล้านดอลลาร์ เพื่อขอติดป้ายตรงพลาซ่าหน้าสเตเดียมเป็นเวลา 10 ปี
สื่อตั้งฉายาครองกี้ว่า ‘ไซเลนท์สแตน’ หรือสแตนผู้เงียบงัน เพราะเขาแทบไม่ให้สัมภาษณ์ใคร แต่ปี 2000 ตอนซื้อทีมนักเก็ตส์เคยบอกกับหนังสือพิมพ์ Denver Post “หนึ่งในความฝันของผมก็คือได้เป็นเจ้าของทีมบาสเกตบอล นี่คือสิ่งที่ผมฝันมานาน”
เขาแต่งงานกับ แอนน์ วอลตั้น ทายาทอภิอัครมหาเศรษฐีตระกูล Walmart
ประเมินกันว่า ครองกี้ยังมีที่ดินในครอบครองทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาราว 3.8 ล้านไร่!
ขนาด เจอร์รี่ โจนส์ เจ้าของทีมดัลลัส คาวบอยส์ ผู้มีทีมกีฬาแพงที่สุดของโลกอย่างดัลลัส คาวบอยส์ ยังเป็นรองความมั่งคั่งแบบไม่เห็นฝุ่น
จุดเริ่มต้น
ปัจจุบันเมืองโมรา บ้านเกิดของครองกี้ ในรัฐมิสซูรี มีประชากรราว 600 คน
ลองนึกดูว่าปี 1947 จะยิ่งเล็กแค่ไหน
ถ้าคุณอยากหารีวิวออนไลน์พวกร้านกาแฟหรือบาร์แถบนั้น ก็เห็นคอมเมนต์น้อยมาก และถ้าอยากค้นหาภาพถ่ายของชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ก็แทบไม่ค่อยมี ถ้าจะมีก็เป็นภาพธรรมชาติอันเวิ้งว้างและทุ่งหญ้าสีเขียว
เรียกว่าที่นี่แทบไม่มีอะไรนอกจากความงดงามของธรรมชาติของย่านมิดอีสต์ของอเมริกา
ใครจะไปคิดว่าเมืองแทบร้างแบบนี้กลับเป็นสถานที่เกิดของผู้สร้างอาณาจักรกีฬาที่มั่งคั่งที่สุดของโลก
อีนอส สแตนลีย์ ครองกี้ คือชื่อเต็มของ สแตน ครองกี้ ตั้งตามสองสุดยอดผู้เล่นทีมเบสบอลเซงต์ลุยส์ คาร์ดินัลส์ ทั้ง สแตน มิวเชี่ยล และ อีนอส สลอห์เตอร์ ซึ่งเกิดและโตที่เมืองโมรา
ครองกี้โตมาโดยแทบไม่มีอะไร คนรอบตัวส่วนใหญ่ก็คงนึกว่าท้ายที่สุดเขาก็คงต้องรับมรดกธุรกิจไม้แปรรูปและมีชีวิตอยู่แบบนั้น
เขามีความทะเยอทะยานกว่าที่หลายคนคิด
โดยก้าวแรกสู่ความเป็นเศรษฐีและอภิอัครมหาเศรษฐีเริ่มมาจากร้านไม้แปรรูปของพ่อนี่แหละ
จากคนกวาดขยะในร้านและเป็นคนทำบัญชี ก่อนที่พ่อจะส่งเสียให้เรียนหนังสือ
ครองกี้เข้าสู่มหาวิทยาลัยมิสซูรี ที่นั่นนอกจากจะเรียนแล้ว เขาก็ยังทำงานเป็นพนักงานเก็บจานและเช็ดโต๊ะ เพื่อหารายได้ให้ตัวเองอีกนิดหน่อย
จบจากมหาวิทยาลัยไม่ทันไร ทุกอย่างเกิดความเปลี่ยนแปลง และนี่เองคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จของเขา
เริ่มสร้างตัว
ครองกี้ตัดสินใจขอยืมเงินพ่อ 1,500 ดอลลาร์ ถือเป็นเงินพอสมควรในยุคดังกล่าว เพื่อซื้อร้านเสื้อผ้าเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ไม่ช้าไม่นานเขาก็ขายร้านออกไปทำกำไรจากการลงทุนครั้งแรกมหาศาล
เงินก้อนดังกล่าวที่ได้มาต่อยอดคอนเน็กชันจนได้พบกับ แอนน์ วอลตั้น ลูกสาวของ บัด วอลตั้น
หลายคนอาจไม่รู้จักชื่อ บัด วอลตั้น แต่ถ้าบอกว่านี่คือผู้ร่วมก่อตั้ง Walmart บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ของโลก ก็คงร้องอ๋อ
การพบรักกับ แอนน์ วอลตั้น และแต่งงานกันเมื่อปี 1974 ยังทำให้เขาได้รับคำแนะนำอันทรงคุณค่าด้านธุรกิจจากพี่น้องวอลตั้น ทำให้ครองกี้หันมาสนใจลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสร้างช้อปปิ้งเซ็นเตอร์และอพาร์ตเมนต์อยู่ใกล้กับห้าง Walmart และเป็นธุรกิจหลักกระทั่งถึงปี 1985
เขาร่วมก่อตั้ง THF Realty และ Kroenke Group มีที่ดินถือครองมหาศาล และยังเปิดบริษัท StorageMart ทำกำไรแต่ละปีไม่ใช่น้อยๆ
สร้างอาณาจักรกีฬาครองกี้
ปี 1993 ครองกี้อายุ 46 ปี เริ่มให้ความสนใจกับธุรกิจด้านกีฬา เมื่อเห็น NFL จะเพิ่มทีมมาตั้งในเมืองเซนต์หลุยส์
อย่างไรก็ตาม เขาล้มเหลว ไม่สามารถโน้มน้าวให้ผู้บริหารลีกให้โอกาสถือครองแฟรนไชส์ได้
แทนที่จะดื้อประมูลใหม่ ก็หันไปซื้อหุ้น 30% ของแรมส์ พร้อมให้คำแนะนำกับ จอร์เจีย ฟรอนเทียร์ เจ้าของทีม ซึ่งสนใจอยากย้ายทีมจากแอลเอสู่เซนต์หลุยส์
เวลาผ่านไปหลายปี ครองกี้ทยอยซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 40%
เมืองเซนต์หลุยส์ลงทุนสร้างสเตเดียมเป็นโดมแห่งใหม่ เพื่อให้แรมส์ใช้แข่ง
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ครองกี้ไม่เพียงซื้อทีมกีฬา แต่ยังซื้อสนามแข่งของทีมเหล่านั้นด้วย
เริ่มจากเดนเวอร์ นักเก็ตส์ ทีม NBA และโคโลราโด้ อวาล้านช์ ทีมฮอกกี้น้ำแข็ง ในปี 2000
จากเงินลงทุน 450 ล้านดอลลาร์ในตอนนั้น ปัจจุบันมูลค่าสองทีมดังกล่าวกลายเป็น 2,800 ล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว
ปี 2004 อาณาจักรครองกี้ครอบครองโคโลราโด้ แรพิดส์ ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ และโคโลราโด้ แมมมอธ ทีมอินดอร์ ลาครอสส์
ขณะเดียวกันเมื่อฟรอนเทียร์เสียชีวิต ครองกี้ก็ใช้สิทธิที่มีขอซื้อหุ้นแรมส์เพิ่ม จนกลายเป็นเจ้าของเต็มรูปแบบเมื่อปี 2010
ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน วิสัยทัศน์ของครองกี้ไม่ธรรมดา เขามองข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังเกาะอังกฤษ โดยเริ่มซื้อหุ้น 9.9% ของทีมอาร์เซนอลในปี 2007 และทยอยซื้อจนเป็นเจ้าของทีมในปี 2011 ก่อนกวาดหุ้นโดยสมบูรณ์แบบในปี 2018
ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าแอลเอคือเมืองใหญ่และมีชื่อเสียงมากกว่าเซนต์หลุยส์หลายเท่า
ประชากรมากกว่าก็หมายถึงโอกาสสร้างรายได้ที่มากกว่า
เมื่อเห็นช่องทางว่าสัญญาเช่าสเตเดียมในเซนต์หลุยส์จะหมดลงในปี 2015
ครองกี้ก็ตัดสินใจถอนรากถอนโคนแรมส์โดยไม่ส่งเสียงก่นด่าและความแค้นของชาวเมืองที่นั่น
พร้อมยังจ่ายค่าปิดคดีพิพาทอย่างที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น
เขาเดิมพันครั้งสำคัญเช่นกัน โดยการลงทุนสร้างสเตเดียมที่แพงที่สุดของโลกขึ้นมา พร้อมทั้งภารกิจสร้างความนิยมของแรมส์ให้ติดตลาดแอลเอ
แรมส์เคยมีมูลค่า 1.45 พันล้านดอลลาร์ตอนย้ายเมืองปัจจุบัน กลายเป็น 6.2 พันล้านดอลลาร์แล้ว แพงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของ NFL
ยังครับ เรื่องราวของครองกี้ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ถ้ายังไม่ได้พูดถึงแอลเอ แกลดิเอเตอร์ส และแอลเอ กอริลล่าส์
แกลดิเอเตอร์สตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 ในฐานะทีมใหม่ของอีสปอร์ตเพื่อแข่งขันในลีกใหม่อย่างโอเวอร์วอช ลีก
ปี 2019 ครองกี้ ตั้งทีมเดอะ กอริลล่าส์ อีกทีมแข่งเกม เพื่อเข้าสู่คอลล์ออฟดิวตี้ลีก
ปี 2021 ครองกี้ยังเคยปฏิเสธข้อเสนอซื้ออาร์เซนอล 2.55 พันล้านดอลลาร์ (ราว 9 หมื่นล้านบาท) จาก ดาเนี่ยล เอ็ก ซีอีโอหนุ่มสวีดิชของ Spotify ผู้ชักชวน 3 ตำนานของทีม ทั้ง เธียรี อองรี, ปาทริก วิเอร่า และ เดนนิส เบิร์กแคมป์ มาลงขันอย่างไม่มีเยื่อใย
คนทั่วไปอาจมองว่าครองกี้มีบุคลิกลึกลับ ค่อนข้างอินโทรเวิร์ต สันโดษ และขี้อาย
แฟนกีฬาบางพวกอาจเกลียดชังเขา แต่อีกมากมายก็รักเขา โดยเฉพาะนักเก็ตส์ในตอนนี้
เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า การสร้างฐานะด้วยวิสัยทัศน์และสัญชาตญาณของครองกี้ถือเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ
จากจุดเริ่มต้นที่กวาดขยะอยู่ในร้านไม้แปรรูปของพ่อตัวเอง
สถิติความสำเร็จทั้งแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 2 สมัย, แชมป์สแตนลีย์คัพ 2 สมัย, แชมป์เมเจอร์ลีกซอกเกอร์คัพ ปี 2010, แชมป์ลาครอสส์ 2 สมัย และล่าสุดแชมป์เอ็นบีเอ
สแตนผู้เงียบงัน คือเจ้าของทีมกีฬาผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็ว่าได้