เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11 มิถุนายน) ‘a16z’ กองทุน Venture Capital ด้านคริปโตชื่อดังของโลก ซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของ Andreessen Horowitz เลือกเปิดออฟฟิศในลอนดอนเป็นที่แรกนอกสหรัฐฯ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่เอื้ออำนวยมากกว่า
โดยกองทุนดังกล่าวยังชี้ว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีแผนที่จะสนับสนุนกฎหมาย และแนวทางในการกำกับดูแลที่ชัดเจนต่อวงการคริปโตมากยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนและผลักดันสตาร์ทอัพ สำหรับระบบการกระจายศูนย์ (Decentralization) มากยิ่งขึ้น
ซึ่งรัฐบาลของสหราชอาณาจักรเองก็มีแผนที่จะนำคริปโตเข้ามาใช้ในวงการการเงินในปัจจุบันอยู่แล้วเช่นกัน
แม้จะมีคนในรัฐบาลบางกลุ่มที่อาจจะไม่เห็นด้วยอยู่บ้าง และมองว่าคริปโตควรถูกมองเหมือนการพนัน แต่ความเห็นดังกล่าวก็ถูกโต้กลับจากคนในอุตสาหกรรม
ในประกาศของกองทุน a16z ยังมองว่า ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำในสหราชอาณาจักร แต่ทางกองทุนมองว่าประเทศดังกล่าวกำลังไปในทิศทางที่ถูกต้อง และจะขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านการกำกับดูแลคริปโตอย่างแน่นอน
และในอนาคต สหราชอาณาจักรจะเป็นบ่อกำเนิดของยูนิคอร์น (สตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์) มากกว่าเยอรมนี ฝรั่งเศส และสวีเดน รวมกัน
แม้แต่ Rishi Sunak นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ยังกล่าวว่า เราเปิดรับนวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง Web 3.0 ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมาช่วยทำให้สตาร์ทอัพใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ในนี้ และช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ออฟฟิศในสหราชอาณาจักรของกองทุน a16z ที่จะเปิดทำการภายในปีนี้ จะเป็นไปเพื่อขยายการลงทุนในสตาร์ทอัพด้านคริปโตในประเทศอังกฤษ และแถบยุโรปอีกเช่นกัน
และเมื่อไม่นานมานี้ กองทุนดังกล่าวยังเป็นผู้นำการลงทุนมูลค่า 43 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.3 พันล้านบาท ในรอบ Series A ของ Gensyn บริษัทสตาร์ทอัพด้านข้อมูลสำหรับ AI บนบล็อกเชนสัญชาติอังกฤษ
แต่ถึงอย่างนั้นเอง กองทุน a16z จะมุ่งเน้นลงทุนในสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ อยู่เช่นเดิม และจะช่วยขับเคลื่อนในความชัดเจนของกฎหมายคริปโตในสหรัฐฯ ต่อไป
อ้างอิง: