จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (National Security Council) ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัสเซีย ที่ระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อยู่เบื้องหลังเหตุโดรนปริศนา 2 ลำ พุ่งเป้าโจมตีทำเนียบเครมลิน กลางกรุงมอสโก เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมา (3 พฤษภาคม) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
โดยรัฐบาลรัสเซียอ้างว่าโดรนทั้ง 2 ลำ ถูกยิงสกัดไว้ได้ ก่อนจะไปถึงที่พักของปูติน และกล่าวหารัฐบาลยูเครนว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีดังกล่าว ขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินชี้ว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นการดำเนินการโดยได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน
“การตัดสินใจเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นที่เคียฟ แต่เกิดขึ้นที่วอชิงตัน” เปสคอฟกล่าว
เคอร์บีกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น ‘คำกล่าวอ้างที่น่าขบขัน’ ของมอสโก และพบว่าปูตินไม่ได้อยู่ในอาคารที่พักในช่วงที่เกิดเหตุ
“เปสคอฟแค่โกหก ง่ายๆ แค่นั้น สหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมรับรองได้ว่าสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้เลย” เขากล่าว และยืนยันว่าวอชิงตันไม่ได้สนับสนุนหรือเปิดโอกาสให้ยูเครนโจมตีนอกพรมแดน และไม่สนับสนุนการโจมตีผู้นำคนใด
ทั้งนี้ คลิปวิดีโอที่ระบุว่าเป็นภาพเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย โดยคลิปแรกแสดงให้เห็นภาพของกลุ่มควันที่พวยพุ่งเหนืออาคารที่ทำการรัฐบาล และอีกคลิปเป็นภาพการระเบิดขนาดเล็กเหนืออาคารวุฒิสภา ขณะที่มีชาย 2 คนปีนขึ้นไปบนหลังคาโดม
ทางด้านรัฐบาลเคียฟยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุโดรนโจมตีเครมลินดังกล่าว และกล่าวหาว่ารัสเซียพยายามจัดฉาก
โดยการกล่าวอ้างของรัสเซียมีขึ้นหลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เดินทางไปเยือนศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ณ กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ และกล่าวสุนทรพจน์เรียกร้องให้มีการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาคดี ‘อาชญากรรมจากการรุกราน’ ของรัสเซีย และกล่าวว่า “ปูตินควรถูกตัดสินโทษทางอาญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ”
ภาพ: Contributor / Getty Images
อ้างอิง: