สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ สกนช. จับตา Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสัปดาห์หน้าที่อาจกระทบต่อราคาน้ำมันดีเซลที่ยังตรึง 33 บาทต่อลิตร พร้อมเบรกพรรคการเมืองที่ใช้นโยบายลดราคาน้ำมัน แนะให้คำนึงเสถียรภาพและสถานะกองทุน รวมถึงมูลค่าหนี้อีกกว่า 8 หมื่นล้านบาท พร้อมเผยเงินกู้ยืมเสริมสภาพคล่องตอนนี้ถูกบรรจุเป็นหนี้สาธารณะไปแล้วกว่าแสนล้านบาท
วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 – มีนาคม 2566) อยู่ในเกณฑ์ดี กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น โดยในช่วงต้นปีงบประมาณฯ ฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเคยติดลบสูงสุดเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ 130,671 ล้านบาท แต่ได้ทยอยปรับลดลงมา โดยในเดือนมีนาคม 2566 ติดลบเหลือ 94,471 ล้านบาท และล่าสุด 23 เมษายน 2566 ติดลบเหลือ 85,586 ล้านบาท
โดยสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มคลี่คลาย ซึ่งราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยรายเดือนลดลง จากช่วงต้นปีงบประมาณเดือนตุลาคม 2565 อยู่ที่ 91.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดมาเหลือ 78.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนมีนาคม 2566
ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปดีเซล (Gas Oil) เดือนตุลาคมที่เคยสูงถึง 133.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดลงมาในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเหลือ 98.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เมื่อนำมาพิจารณาภายหลังจากกระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้สามารถดำเนินการกู้ยืมเงินได้ ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มลดลง ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มเรียก
เก็บเงินเข้าและมีสภาพคล่องมากขึ้น จนสามารถลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไป 4 ครั้ง ครั้งละ 0.50 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจาก 34.94 บาทต่อลิตร เป็น 32.94 บาทต่อลิตร หรือประมาณ 33 บาทต่อลิตรต่อไป
ส่วนความคืบหน้าของการกู้ยืมเงินเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ นั้น สกนช. ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในการกู้ยืมเป็นจำนวน 150,000 ล้านบาท โดยบรรจุเป็นหนี้สาธารณะของประเทศไปแล้ว 110,000 ล้านบาท ปัจจุบัน สกนช. ทำการกู้ยืมไปแล้ว 30,000 ล้านบาท และในเดือนเมษายน 2566 จะทำการกู้ยืมเงินเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยทำการกู้ยืมเงินตามสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต่อไป
อย่างไรก็ตาม การปรับลดราคาดีเซลจะอยู่ที่ระดับใดนั้นขึ้นอยู่กับธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) พิจารณาอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 2-3 พฤษภาคม 2566 ซึ่งหากปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกจะส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อและทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว มีผลต่อราคาน้ำมันโลก
เบรกพรรคการเมืองหาเสียงด้วยการลดราคาน้ำมัน
วิศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่บางพรรคการเมืองมีนโยบายหาเสียงด้วยการลดราคาน้ำมันดีเซลให้เหลือ 28 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันราคาจำหน่ายอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตรนั้น โดยเบื้องต้นทราบว่าอาจจะใช้วิธีถอดภาษีและยกเลิกการจ่ายเงินเข้ากองทุนต่างๆ ชั่วคราว ซึ่งรวมถึงการจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ด้วย ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่จะต้องพิจารณาผลกระทบด้านรายได้รัฐและฐานะกองทุนน้ำมันฯ เพื่อใช้ดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันในประเทศควบคู่ด้วย
ส่วนมาตรการลดภาษีดีเซลประมาณ 5 บาทต่อลิตรที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 นั้นเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล สกนช. เตรียมทำแบบแนวทาง (Scenario) การปรับลดราคาดีเซลที่เกี่ยวข้องกับการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลใน 3 แนวทางคือ 1. กรณีกลับมาเก็บภาษีดีเซลเหมือนเดิมประมาณ 5 บาทต่อลิตร 2. การปรับขึ้นภาษีดีเซลแบบขั้นบันได และ 3. ลดภาษีดีเซลเช่นปัจจุบัน จะนำเสนอให้กับรัฐบาลใหม่พิจารณาเลือกแนวทางที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งท้ายที่สุดขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ด้วยว่าจะตัดสินใจอย่างไร
“ถึงแม้ว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น แต่ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันยังติดลบอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับความผันผวนของราคาพลังงานตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลุ่ม OPEC+ ที่ลดกำลังการผลิต การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ความผันผวน
ของเงินดอลลาร์สหรัฐ การเปิดประเทศของจีน และความขัดแย้งจากประเทศและกลุ่มประเทศที่สนับสนุนของฝ่ายรัสเซียและยูเครน ทำให้ สกนช. ต้องเฝ้าติดตาม และคงต้องเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อนำมาชำระหนี้ อย่างไรก็ตามราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม ไม่เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากจนเกินไป” วิศักดิ์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- พลังงานไฮโดรเจนมาแน่! กฟผ. บินญี่ปุ่นถก 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ ศึกษาผลิตไฟจากไฮโดรเจน-แอมโมเนีย
- ‘กฟผ.-ธอส.’ เผย ‘โครงการบ้านเบอร์ 5’ ลดค่าไฟฟ้าได้ 44 ล้านบาทต่อปี ลดปล่อยก๊าซคาร์บอน 5,300 ตันต่อปี ตั้งเป้าปี 66-68 สร้างเพิ่ม 5,000 หลัง
- ‘กลุ่มทุนจากจีน’ ชนะการประมูล ‘เหมืองลิเธียม’ ในโบลิเวีย ประเทศที่มีแร่หายากมากที่สุดในโลก เสริมแต้มต่อในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า