ไม่ว่าวงการอาหารจะวิ่งเร็วแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่ามีไม่กี่ร้านหรอกที่คุณจะเลือกกินเพราะอร่อย ถูกปาก และสบายใจ Rossini’s ห้องอาหารอิตาเลียนของโรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit เป็นหนึ่งในร้านดังกล่าว ที่ไม่ว่าจะกลับมากินอีกกี่ครั้งก็ถูกปากถูกใจเราเสมอ การันตีรสชาติด้วยลิสต์รายชื่อแนะนำใน Michelin Guide รางวัล Michelin Plate และยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน ‘World’s Leading Italian Restaurants’ มอบโดยสมาคม Melius ซึ่งเป็นการจัดอันดับห้องอาหารอิตาเลียน 100 ร้านที่ดีที่สุดที่อยู่นอกประเทศอิตาลี
บรรยากาศร้าน
The Vibe
ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 1 ของโรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit บรรยากาศด้านในตกแต่งด้วยปูนและหิน เฟอร์นิเจอร์ไม้ และครัวเปิดที่โชว์การปรุงอยู่ตรงโถงด้านขวา ให้ความรู้สึกหรูหราและอบอุ่น ยิ่งมื้อค่ำจุดเทียนและใช้ไฟเฉดส้มก็ให้ความรู้สึกราวกับหลุดไปอยู่ในร้านอาหารสักแห่งในเมืองทัสคานี ประเทศอิตาลี
The Taste
ที่นี่เปิดร้านให้ชิมทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ มีทั้งเมนูชุดและเมนูแบบอะลาคาร์ตให้เลือกตามสะดวก โดยทั้งหมดปรุงขึ้นจากวัตถุดิบส่งตรงมาจากทั่วอิตาลี ตั้งแต่ซิซิลีไปจนถึงปีเยมอนเต อย่างวันที่เราไปชิมเป็นชุดเมนูในธีม Tour to Italy & France Wine Dinner ที่ทางเชฟ Gaetano Palumbo จัดเตรียมขึ้นมาเพื่อหมายพานักชิมกลับไปเที่ยวอิตาลีและฝรั่งเศสผ่านมื้ออาหารและไวน์
โดยเซ็ตนี้เป็นอาหารทั้งหมด 8 คอร์ส เริ่มต้นจานแรกด้วย Tonno, Croccante d’alghe, Avocado e mayo d’ nduja อาหารกินเล่นแบบ Amuse Bouche ที่นำเอาปลาทูน่า อะโวคาโด มาหั่นเต๋าแล้วคลุกกับซอส Nduja Mayo วางท็อปบนสาหร่ายทอดกรอบ ดื่มคู่กับ Prosecco Extra Dry จาก Villa Cornaro เมืองเวเนโต ประเทศอิตาลี
ซ้าย: Tonno, Croccante d’alghe, Avocado e mayo d’ nduja
ขวา: Granchio reale, zucca e caviale Beluga Giaveri
ซ้าย: บรรยากาศร้านให้กลิ่นอายของวิลล่าในทัสคานีเต็มเปี่ยม
ขวา: Asparagi Verdi, uovo, fontina con alette di pollo, tartufo, nocciola e oro
ตามติดด้วยแอปพิไทเซอร์ 2 คอร์ส ได้แก่ Granchio reale, zucca e caviale Beluga Giaveri เนื้อปู King Crab วางบนแผ่นแป้งอบกรอบท็อปด้วยคาเวียร์ Caviar Giaveri และยอดหน่อไม้ฝรั่ง กินคู่กับซอสฟักทอง รสชาติปูเข้มเต็มคำ มีรสเค็มจากคาเวียร์นิดๆ จะกินเดี่ยวหรือคู่กับซอสได้ไม่ติด
อีกจาน Asparagi Verdi, uovo, fontina con alette di pollo, tartufo, nocciola e oro จานนี้มีแอสพารากัสหรือหน่อไม้ฝรั่งเป็นตัวเอก แล้วเพิ่มมิติของรสชาติและกลิ่นด้วยฟอนตินาชีส เห็ดทรัฟเฟิลดำ ไข่ลวก เฮเซลนัท และเนื้อปีกไก่ย่าง จานนี้รสออกเค็มๆ นัวๆ ครีมมี่นิดๆ
สำหรับจานหลักมีทั้งหมด 2 จาน แต่เราขอเอ่ยจากที่เราชอบที่สุด Medaglione d’agnello e scampi con purea di asparagi bianchi, caffe e arancia สเต๊กเนื้อแกะสันนอก และกุ้งลังกู้สตีน เคียงด้วยหน่อไม้ฝรั่งขาวกริลและพิวเร เสริมรสด้วยส้มและกาแฟ จานนี้เราประทับใจเนื้อแกะมาก เคี้ยวง่าย เปื่อยยุ่ยกำลังดี แถมยังไร้กลิ่นสาบ กุ้งลังกู้สตีนก็เนื้อเด้งอร่อย
จานหลักทั้ง 2 เมนู ซ้ายคือ Filetto di vitello con funghi, finferli e tartufo nero สเต๊กเนื้อลูกวัวกับเสิร์ฟมาพร้อมเห็ดมันปูฝรั่ง และทรัฟเฟิล จานขวา คือ Medaglione d’agnello e scampi con purea di asparagi bianchi, caffe e arancia ที่เรากล่าวไว้ในเนื้อความ
ซ้าย: จานพาสต้า Riso Carnaroli al Toma, lamponi e salsa di erbe รีซอตโต ข้าว Carnaroli ท็อปด้วยชีสโทม่า ซอสสมุนไพร และราสป์เบอร์รี
ขวา: จานขนมหวาน Morbido di Parmigiano con gelato di asparagi bianchi e rabarbaro เจลาโตหน่อไม้ฝรั่งขาวกับพาร์เมซานชีส วางบนซอสรูบาร์บ
Good for
สำหรับคนชอบอาหารอิตาเลียน หรือมื้อพิเศษในโอกาสพิเศษ เราอยากให้คุณไปลอง Rossini’s เพราะมีร้านอิตาเลียนไม่กี่แห่งหรอกที่จะให้คุณสัมผัสรสชาติและบรรยากาศราวกับหลุดไปในอิตาลีจริงๆ
Open: เปิดทุกวัน มื้อกลางวัน เวลา 12.00-14.30 น., มื้อค่ำ เวลา 17.00-22.30 น.
Location: โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit ย่านอโศก ระหว่างสุขุมวิท 12 และ 14
Budget: 3,800++ บาทต่อ 8 คอร์ส (อิงจากธีม Tour to Italy & France Wine Dinner)
Website: www.rossinisbangkok.com
Facebook: @sheratongrandesukhumvit