สำนักข่าว BBC รายงานโดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่จากทางการไทยว่า มีชาวเมียนมาราว 10,000 คนที่หลบหนีเข้ามาในไทยนับตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา (5 เมษายน) หลังการสู้รบระหว่างทหารและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในประเทศรุนแรงขึ้นอย่างมาก
รายงานระบุว่า ประชาชนกลุ่มนี้หลบหนีออกมาจากเมืองชเวโก๊กโก่ (Shwe Kokko) ซึ่งควบคุมโดยกลุ่มทหารกองหนุนของกองทัพเมียนมา และเป็นเมืองคาสิโนชื่อดังที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนจีน โดยพื้นที่แห่งนี้ประชิดกับชายแดนไทยบริเวณจังหวัดตาก ซึ่งการย้ายถิ่นฐานครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในการอพยพข้ามพรมแดนที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดรัฐประหารในเมียนมาเมื่อ 2 ปีก่อน
สำหรับการสู้รบครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธเปิดฉากโจมตีกองทหารในด่านหน้าและค่ายทหารใกล้กับเมืองชเวโก๊กโก่เมื่อวันพุธ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 คนจากทั้งสองฝ่าย
ด้านกลุ่มช่วยเหลือในพื้นที่ชายแดนอำเภอแม่สอดและอำเภอแม่ระมาด ได้เรียกร้องให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน โดยตอนนี้ผู้ลี้ภัยต้องกระจายตัวพักอาศัยอยู่ตามโรงเรียน วัด และสวนยาง
นับตั้งแต่การรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 รัฐบาลทหารเมียนมายังไม่สามารถบังคับใช้อำนาจเต็มได้ในหลายพื้นที่ของประเทศ เนื่องจากยังต้องวุ่นวายอยู่กับการสู้รบกับกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ที่แข็งข้อกับทางการมาเป็นเวลาหลายสิบปี รวมถึงยังต้องสู้กับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ซึ่งเป็นเครือข่ายของพลเรือนที่จับอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า เหตุนองเลือดในเมียนมาทำให้มีประชาชนหลายพันคนเสียชีวิต และมีประชาชนราว 1.4 ล้านคนที่ต้องพลัดถิ่นนับตั้งแต่รัฐประหาร โดยเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรเมียนมานั้นต้องการได้รับความช่วยเหลือในการดำรงชีวิตอย่างเร่งด่วน
ภาพ: Guillaume Payen/SOPA Images/LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: