ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแห่งจีน ได้พบปะกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นครั้งแรกที่สองผู้นำได้พบกันแบบตัวต่อตัวหลังสงครามยูเครนเปิดฉากขึ้นเป็นเวลากว่า 1 ปี โดยทั้งสองจะร่วมกันหารือกันเพิ่มเติมในวันนี้ (21 มีนาคม) และจะมีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย
ขณะเดียวกันการเดินทางเยือนครั้งนี้ยังถือเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของสีจิ้นผิงนับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3 โดยสีจิ้นผิงหวังสร้างภาพลักษณ์ให้จีนเป็นผู้สร้างสันติภาพให้กับสงครามยูเครน แม้จะเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจร่วมกับรัสเซียควบคู่กันไปด้วยก็ตาม
สำหรับการพบปะกันวานนี้ สีจิ้นผิงและปูตินทักทายกันและกัน พร้อมกล่าวว่าอีกฝ่ายคือ ‘เพื่อนรัก’ ขณะที่สำนักข่าวของรัสเซียรายงานว่า ทั้งคู่ได้หารือกันอย่างไม่เป็นทางการเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนการหารืออย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันนี้
ปูตินกล่าวกับสีจิ้นผิงว่า ตัวเขามองข้อเสนอของจีนในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในยูเครนด้วยความเคารพ ทั้งยังกล่าวด้วยว่า เขารู้สึก ‘อิจฉาเล็กน้อย’ ที่จีนมีระบบที่มีประสิทธิภาพสูงในการพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ส่วนสีจิ้นผิงก็ได้ยกย่องปูติน พร้อมกล่าวว่า ชาวรัสเซียจะต้องลงคะแนนเสียงให้เขาอีกครั้งในการเลือกตั้งสมัยหน้า
อย่างไรก็ตาม ด้านสหรัฐอเมริกาได้ประณามการเดินทางเยือนรัสเซียของสีจิ้นผิง โดยกล่าวว่า ทริปครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เพิ่งออกหมายจับปูติน ฐานมีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งบ่งชี้ว่า จีนกำลังให้ ‘ความคุ้มครองทางการทูต’ แก่มอสโก
“การที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเดินทางไปรัสเซียเพียงไม่กี่วันหลัง ICC ออกหมายจับประธานาธิบดีปูตินชี้ให้เห็นว่า จีนคิดว่าตนเองไม่มีส่วนต้องกดดันให้รัสเซียรับผิดชอบต่อความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในยูเครน” แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าว “แทนที่จะประณามพวกเขา จีนกลับให้ความคุ้มครองทางการทูตแก่รัสเซียในการก่ออาชญากรรมร้ายแรงเหล่านั้นต่อไป”
ด้าน จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า สีจิ้นผิงควรใช้อิทธิพลที่ตนเองมีกดดันปูตินให้ถอนทหารออกจากยูเครน อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ กังวลว่าจีนอาจเรียกร้องให้มีการหยุดยิงแทน เพราะนั่นจะเปิดทางให้ทหารรัสเซียยังคงประจำการอยู่ในพื้นที่
อ้างอิง: