สำนักข่าว KCNA เปิดเผยว่า การยิงขีปนาวุธรอบล่าสุดของเกาหลีเหนือคือการซ้อมรบทางทหารที่ออกแบบมาเพื่อฝึกฝนให้กองทัพสามารถปฏิบัติภารกิจได้ทุกเมื่อ และ ‘พร้อมทำลายล้างศัตรู’ หากจำเป็น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังวานนี้ (14 มีนาคม) เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกลงสู่ทะเลฝั่งตะวันออก ซึ่งถือเป็นการทดสอบอาวุธครั้งล่าสุดในขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาจัดการซ้อมรบร่วมที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
รายงานจากเกาหลีเหนือระบุว่า การยิงขีปนาวุธที่เกิดขึ้นเป็น ‘การซ้อมรบแบบสาธิต’ (Demonstration Drill) โดยเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจากจังหวัดฮวางแฮใต้ และร่อนไกลประมาณ 611 กิโลเมตร ก่อนที่จะตกลงในพื้นที่เป้าหมายซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ในชายฝั่งตะวันออก
“ดังที่กล่าวไปแล้วว่าขีปนาวุธของประเทศจะสามารถทำลายล้างศัตรูได้หากมีการต่อสู้เกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาการจึงตัดสินใจแล้วว่า กองทัพเกาหลีเหนือจะต้องมีศักยภาพมากพอที่จะเปิดฉากปฏิบัติการยิงขีปนาวุธได้ทุกเมื่อ พร้อมยกระดับการฝึกซ้อมการโจมตีให้เข้มข้นยิ่งขึ้น” รายงานจาก KCNA ระบุ
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้เปิดฉากการซ้อมรบร่วม 11 วัน ภายใต้รหัสว่า Freedom Shield 23 ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 ปี เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือได้ประณามการซ้อมรบครั้งนี้ว่าเป็นการเตรียมการที่จะรุกรานประเทศ และเห็นได้ชัดว่าเกาหลีใต้และสหรัฐฯ มีนโยบายที่เป็นปรปักษ์กับเกาหลีเหนือ
ภาพ: Kim Jae-Hwan / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: