การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนยุคใหม่ มองหาที่อยู่อาศัยที่ให้มากกว่าแค่ดีไซน์ตอบโจทย์ ฟังก์ชันตรงใจ แต่ที่ที่จะอาศัยอยู่นั้นต้องสร้างชีวิตที่ ‘อยู่ดี มีสุข’ ได้อย่างแท้จริง กำลังสร้างแรงกระเพื่อมไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
‘พฤกษา’ องค์กรที่มีพันธกิจในการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน นำทัพโดย อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมบริหาร ขานรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลง ประกาศจุดหมายใหม่ขององค์กรภายใต้แนวคิดใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต ส่งมอบคุณค่าการอยู่อาศัยกับวิถีชีวิตที่ ‘อยู่ดี มีสุข’ หรือ ‘Live Well Stay Well’ โดยมีกลุ่มธุรกิจเรียลเอสเตทและเฮลท์แคร์เป็นจิ๊กซอว์สำคัญ และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอีกหนึ่งฟันเฟืองที่จะช่วยสร้างวิถีชีวิต ‘อยู่ดี มีสุข’ อย่างแท้จริง
อุเทนเผยว่า กลุ่มพฤกษาเล็งเห็นการเปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคม สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อรูปแบบการทำธุรกิจและการใช้ชีวิตของผู้บริโภค ซึ่งกลุ่มพฤกษาก็ต้องปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง ประกอบกับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทที่ครอบคลุมหลากหลายมิติเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คน ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบิ๊กมูฟที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“ตลอด 30 ปีของพฤกษา เราสร้างที่อยู่อาศัยมากกว่า 200,000 ครัวเรือน วันนี้เรามองเห็นโอกาสใหม่ที่จะส่งมอบความเป็นอยู่ที่ดีมีความสุขให้กับผู้บริโภคใน 3 ด้าน ได้แก่ ความมั่งคั่ง (Wealth) สุขภาพดี (Health) และปันสุข (Happiness) โดยนำจุดแข็งของกลุ่มพฤกษา ใช้พลังธุรกิจในเครือผ่านแกนหลักคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในชุมชนและสังคมอบอุ่นที่ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในขณะที่ธุรกิจสุขภาพเรามีโรงพยาบาลวิมุตและเครือข่ายร่วมกันดูแลคนไทยให้มีสุขภาพดี ด้านธุรกิจดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซเราใช้แพลตฟอร์มเชื่อมโยงและรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่โดยใช้เทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ เป็นเครื่องมือสร้างความสะดวกในการใช้ชีวิตอย่างครบครัน ครอบคลุมทุกความต้องการ ทุกไลฟ์สไตล์”
5 กลยุทธ์ขับเคลื่อนเป้าหมายสร้าง ‘การอยู่อาศัย’ เพื่อความ ‘อยู่ดี มีสุข’
แนวคิดการสร้างวิถีชีวิตแบบ ‘อยู่ดี มีสุข’ จะถูกขับเคลื่อนด้วย 5 กลยุทธ์หลักที่จะใช้ร่วมกันของกลุ่มพฤกษา ประกอบด้วย
- Strengthen the Core นำแนวคิดการทำงานแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ (Agile Way of Working) มาใช้พัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของตลาดมากขึ้น
- Green to Great ใช้แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน กำหนดนโยบายและแนวทางด้าน ESG (Environment-Social-Governance) เป็นศูนย์กลางในการออกแบบกลยุทธ์และกระบวนการดำเนินงานทุกมิติ
- Seed New Business ลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตตามเมกะเทรนด์
- Capability Building ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
- Customer Centric ใส่ใจ…สร้างประสบการณ์ที่ดีและความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
ดึง Insight ผนวก Mega Trend สร้างสินค้าและบริการเพื่อชีวิตที่ ‘อยู่ดี มีสุข’
ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ฉายภาพกว้างให้เห็นก่อนว่าปัจจุบันพฤกษามีที่อยู่อาศัยโครงการปัจจุบันที่ยังเปิดขายอยู่ทั่วประเทศมูลค่า 69,900 ล้านบาท จำนวน 158 โครงการ รวมทั้งหมด 13 แบรนด์ ครอบคลุมความต้องการได้ครบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
ปี 2566 มีแผนเปิดโครงการใหม่ 23 โครงการ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 11 โครงการ และคอนโด 4 โครงการ รวมมูลค่า 23,500 ล้านบาท มุ่งเพิ่มกลุ่มสินค้าที่จับกลุ่มลูกค้าในเซ็กเมนต์ระดับกลางไปถึงสูง
สำหรับเป้าหมายการนำแนวคิด ‘อยู่ดี มีสุข’ (Live Well Stay Well) ให้สอดคล้องไปกับโครงการในอนาคต พฤกษาจะใช้ ‘PRUKSA Living Solutions’ นำนวัตกรรมมาดีไซน์บ้านยุคใหม่เพื่อให้บ้านเป็นมากกว่าที่พักอาศัย โดยยังส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดทั้งกายและใจในการใช้ชีวิตภายในบ้าน ชุมชน และในสังคมคุณภาพ ใช้ Customer Insight ของลูกค้าผนวกรวมเข้ากับ Mega Trend มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
- Health & Wellness Redefined จับมือกับโรงพยาบาลวิมุตร่วมดีไซน์บ้านให้เป็น Universal Design สอดรับกับเทรนด์สุขภาพ สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยกับทุกวัย ขณะเดียวกันยังออกแบบให้เกิดการระบายอากาศที่ดีภายในตัวบ้าน รวมถึงการสร้างศูนย์สุขภาพภายในพื้นที่โครงการ เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพลูกบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- Lifestyle Disruption นำแนวคิดบ้านแบบ Multi Gen ที่รองรับการอยู่อาศัยของคนทุกเจเนอเรชัน การออกแบบการใช้พื้นที่ในบ้านอย่างคุ้มค่า (Smart Space Design) การนำระบบ Home Automation มาช่วยจัดการการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น เชื่อมโยงการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีผ่านแอปพลิเคชัน ‘MYHAUS’ ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ IoT ภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย
- Sustainable Development เลือกใช้พลังงานทางเลือกในโครงการ ทั้ง Solar Rooftop และ EV-Charger รวมถึงการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน (Passive Home) เป็นบ้านที่ออกแบบและเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพน้อยที่สุด
โรงพยาบาลวิมุตกางแผนพัฒนาระบบนิเวศเชื่อมโยงการใช้ชีวิตและการดูแลสุขภาพอย่างไร้รอยต่อ
จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญเพื่อสร้างการอยู่อาศัยแบบ ‘อยู่ดี มีสุข’ คือโรงพยาบาลวิมุต ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำร่องมอบสิทธิพิเศษและบริการด้านสุขภาพให้กับลูกบ้านของคอนโด The Privacy Jatujak แบบครบวงจร ทั้งบริการตรวจสุขภาพ เรียกรถพยาบาล เวิร์กช็อปเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวถึงแผนพัฒนาระบบนิเวศเชื่อมโยงการใช้ชีวิตและการดูแลสุขภาพอย่างไร้รอยต่อเพื่อชีวิตที่ ‘อยู่ดี มีสุข’ โดยจะขับเคลื่อนภายใต้กลไกหลัก 3 ข้อ คือ
- การเชื่อมโยงกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของพฤกษา ขยายบริการทางการแพทย์สู่บ้านเรือนให้ลูกบ้านพฤกษาได้รับบริการดูแลด้านสุขภาพเสมือนมีหมอประจำครอบครัว ผ่านการจัดสร้างศูนย์สุขภาพชุมชน, Wellness Center และ Nursing Home
- การเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลรัฐ เริ่มต้นที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้คนไข้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้สะดวกสบายมากขึ้น โดยยึดหลักคนไข้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม และลดเวลารอคิว
- การเชื่อมโยงแบบ Anywhere Anytime ด้วยแอปพลิเคชันวิมุต ที่ให้บริการการแพทย์ทางไกล การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ทางไปรษณีย์ การพัฒนาระบบดิจิทัลเฮลท์แคร์เพื่อการส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกัน รวมไปถึงแผนการในอนาคตที่พัฒนาโรงพยาบาลมุ่งสู่โรงพยาบาลเสมือนจริง (Virtual Hospital) ดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่บ้านจากเครื่องติดตามการทำงานของร่างกาย หากมีเหตุฉุกเฉินหรือผิดปกติทีมแพทย์สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที บริการเจาะเลือดไม่ต้องมาโรงพยาบาล และความร่วมมือกับพันธมิตรอื่นๆ ที่จะช่วยยกระดับการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลได้ง่ายขึ้นด้วย
“ปี 2566 ทางกลุ่มมีแผนลงทุน 2,500 ล้านบาท เพื่อสร้างและเปิดศูนย์สุขภาพ ได้แก่ Vimut Wellness ร่วมกับเจเอเอส แอสเซ็ท สาขาแรก ถนนคู้บอน เริ่มวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนที่ดินซอยแบริ่ง วัชรพล และสุขุมวิท 54 จะใช้งบลงทุนแหล่งละ 100-150 ล้านบาท และมีแผนสร้างโรงพยาบาลวิมุต ย่านปิ่นเกล้า เป็นการลงทุนเองหลักพันล้านบาท แบ่งเป็น 3 เฟส เพื่อให้มีรายได้เข้ามาหมุนเวียนในการลงทุน ในแต่ละเฟสจะมี 60-70 เตียง โดยใช้เวลา 2-3 ปี เปิดครบทั้ง 3 เฟส”
เปิดตัว clickzy.com ขานรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์เพื่อคนรักบ้านและรักสุขภาพ ฟันเฟืองชิ้นล่าสุดที่จะช่วยขับเคลื่อนแผนการสร้างชีวิต ‘อยู่ดี สุขดี’ ของพฤกษา คือการเปิดตัว clickzy.com แพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์น้องใหม่ พร้อมแคมเปญ ‘Happiness at Your Fingertips’ ความสุขเกิดขึ้นง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว ที่สร้างขึ้นโดย บริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด ธุรกิจน้องใหม่ในเครือพฤกษา ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อรองรับธุรกิจต่างๆ ในเครือพฤกษา
บุญไทย แก้วโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด กล่าวถึงพันธกิจขององค์กรที่มีเป้าหมายที่จะเสริมสร้างชีวิตที่ ‘อยู่ดี มีสุข’ ให้กับผู้บริโภค เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของผู้คนให้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
“ที่ผ่านมาเราพัฒนาแอปพลิเคชัน MYHAUS หรือนวัตกรรมระบบบ้านอัจฉริยะ ที่เป็นแพลตฟอร์มควบคุมสมาร์ทโฮมและจัดการการใช้งานส่วนกลางในโครงการ เชื่อมโยงบริการครบวงจรสำหรับลูกค้าพฤกษา และแอพพลิเคชัน ViMUT ที่ให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรจากโรงพยาบาลวิมุต นอกจากนี้ยังมีธุรกิจ Zdecor ที่ให้บริการการตกแต่งภายในแบบครบวงจร One Stop Service ในราคาที่เข้าถึงได้ ประหยัดเวลา แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ จบที่เดียว”
clickzy.com ในฐานะ E-Marketplace ที่ให้บริการตลาดค้าปลีกออนไลน์ รวบรวมร้านค้า สินค้าด้านที่อยู่อาศัย การบำรุงรักษาบ้าน การดูแลสุขภาพและความงาม และเป็นแหล่งรวมบัตรกำนัลดิจิทัล (E-Voucher) จะเข้ามาเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงการใช้ชีวิตอย่างครอบคลุม ทั้งการอยู่อาศัย การออกแบบตกแต่งภายใน การดูแลสุขภาพ และอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น clickzy.com จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าในชุมชนอีกทาง
ช่วงท้ายของการแถลงข่าว อุเทนกล่าวสรุปว่า การผนึกกำลังระหว่างอสังหา เฮลท์แคร์ และอีคอมเมิร์ซ จะทำให้การดูแลลูกค้าปัจจุบันและในอนาคตทำได้อย่างทั่วถึง
“เราคิดถึงทุกมิติของการอยู่อาศัย นอกจากบ้านที่ดี สังคมดี สุขภาพต้องดีด้วย ถึงจะเรียกว่าอยู่ดี และเมื่อคุณไม่ต้องเสียค่าห้อง ค่าเตียง สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ แถมไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปหาหมอ ก็จะได้เวลาไปทำสิ่งที่มีความสุข จากนี้ไปพฤกษาจะไม่ได้เป็นบริษัทสร้างที่อยู่อาศัยอย่างเดียว เราจะเสริมการบริการด้านสุขภาพ ด้านดิจิทัล ด้านการปล่อยเช่า เพื่อสร้างรายได้คงที่ สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มธุรกิจ และสร้างคุณค่าให้กับสังคม”
อุเทนยังบอกต่อว่า พฤกษาเป็นแบรนด์เดียวในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถผลิตแผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำ (Low Carbon Precast) ด้วยนวัตกรรม CarbonCure ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์ได้ถึง 15,098 ตันคาร์บอนต่อปี และลดต้นทุนการผลิตได้ท่ามกลางการขึ้นราคาของวัสดุก่อสร้าง
“เป้าหมายของเราคือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 30 ภายในปี 2573 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี พ.ศ. 2593 ซึ่งเป็นไปตามเป้าปณิธานของไทยและนานาประเทศ”