วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) ช่วงเช้าที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครถูกปกคลุมด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดย AirVisual เว็บไซต์สำรวจคุณภาพอากาศทั่วโลกแบบเรียลไทม์รายงานว่า ช่วงเวลา 07.30 น. กรุงเทพฯ ประเทศไทย มีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 164 US AQI มีสถานะสีแดง อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อทุกคน เท่ากับอีก 2 เมือง คือ กรุงอักกราของกานาและเมืองเดลีของอินเดีย
ทั้งนี้ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2566 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่ ขณะที่พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างระหว่างวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ และ 1-2 มีนาคม 2566
ข้อมูลจาก พญ.ชนัญญา ศรีหะวรรณ์ อนุสาขาอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลสมิติเวช ระบุถึงภัยร้ายที่อาจมาพร้อมกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ว่าหากสูดเข้าลึกถึงทางเดินหายใจและปอดจนสะสมเป็นเวลานานอาจเป็นปัจจัยให้เกิดมะเร็งปอดได้
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อหัวใจ เกิดการตะกอนภายในหลอดเลือดจนทำให้เกิดหัวใจวายหรือหลอดเลือดสมองตีบ มีผลต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เต้นผิดจังหวะและอาจรุนแรงจนส่งผลให้หัวใจวายเฉียบพลัน ทั้งยังส่งผลต่อสมอง อาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูงและเลือดมีความหนืด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง รวมถึงหลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว ทำให้เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก เป็นสาเหตุของโรคอัมพฤกษ์อัมพาตและเสียชีวิตได้
พญ.ชนัญญาแนะนำว่าควรป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM2.5 ด้วยการสวมใส่หน้าอนามัยที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นละอองพิษได้สูง และไม่ควรนำหน้ากากใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่