ดูเหมือนว่าการประชุมความมั่นคงมิวนิกประจำปีนี้จะมีหลายประเด็นที่น่าจับตา หลังหลายชาติใหญ่ได้เปิดเผยจุดยืนและแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย ซึ่งกินเวลามาเกือบ 1 ปีเต็มแล้ว โดยระหว่างการประชุมดังกล่าว แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวเตือน หวังอี้ นักการทูตระดับสูงของจีนถึง ‘ผลที่ตามมา’ หากจีนให้การสนับสนุนด้านวัตถุแก่รัสเซีย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองชาติมหาอำนาจโลกได้พบปะกันนอกรอบการประชุมความมั่นคงมิวนิก ซึ่งมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่หวังอี้กล่าวตำหนิว่าสหรัฐฯ ‘ทำเกินกว่าเหตุ’ จากกรณีที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีคำสั่งส่งเครื่องบินรบ F-22 ยิงบอลลูนสอดแนมจีนทิ้งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่กดดันให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติเกิดความตึงเครียดระลอกใหม่ และยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ จับตาอย่างใกล้ชิดว่าจีนจะตอบสนองต่อสงครามยูเครนอย่างไรด้วย
บลิงเคนได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว NBC News ว่า ทางการสหรัฐฯ มีความวิตกกังวลว่าจีนอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะส่งความช่วยเหลือระดับรุนแรงให้กับรัสเซีย และเขาได้กล่าวกับหวังอี้ชัดเจนว่า หากจีนทำเช่นนั้น ‘ก็จะมีผลกระทบที่ตึงเครียดตามมาระหว่างความสัมพันธ์ของสองชาติ’ โดยบลิงเคนกล่าวว่า จีนกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะส่งมอบความช่วยเหลือระดับอันตรายสูงหลายประเภทให้กับรัสเซีย ซึ่งรวมไปถึงการจัดส่งอาวุธพิฆาตด้วย และทางการสหรัฐฯ เตรียมที่จะแถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศอีกรายหนึ่งยังเปิดเผยด้วยว่า จีนพยายามที่จะ ‘จับปลาสองมือ’ นั่นคือการพยายามอ้างว่าจีนต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในประเด็นยูเครน-รัสเซีย แต่ในขณะเดียวกัน จีนก็ได้ดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนฝ่ายของรัสเซีย และตัวบลิงเคนเองก็ได้กล่าวเตือนจีนอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมา หากจีนส่งความช่วยเหลือแก่รัสเซียทั้งในแง่ของการช่วยเหลือด้านวัตถุ หรือช่วยให้รัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรได้
ทั้งนี้ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่รัสเซียจะเปิดฉากบุกยูเครน ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้พบปะกันที่ปักกิ่ง และประกาศความเป็นหุ้นส่วนในเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันแบบ ‘ไร้ขีดจำกัด’ ท่าทีดังกล่าวของสองผู้นำทำให้การพบกันเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ซึ่งสนใจว่าจีนจะมีจุดยืนสนับสนุนหรือต่อต้านการทำสงครามของรัสเซีย ขณะที่จีนเองก็ไม่เคยออกมาประณามการกระทำของรัสเซียตรงๆ และไม่เคยพูดว่าสงครามที่เกิดขึ้นมีปมปัญหามาจากการรุกรานของรัสเซีย
ภาพ: Johannes Simon / Getty Images
อ้างอิง: