ทุกคำพูดของ บิล เกตส์ ล้วนเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะเขาคือผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในการปลุกปั้นบริษัทเทคขนาดยักษ์มาก่อน ล่าสุดเขาให้ความเห็นว่า AI Chatbot เช่น ChatGPT กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เช่นเดียวกับการเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ตหรือวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
“AI กำลังจะถูกถกเถียงในฐานะหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดของปี 2023” เกตส์กล่าวกับ Forbes “และคุณรู้อะไรไหม สิ่งนี้จะสำคัญพอๆ กับ PC และอินเทอร์เน็ต”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก ‘ChatGPT’ แชตบอตโด่งดังสุดอัจฉริยะ ที่กำลังเขย่าโลก ‘AI’ และอาจจุดชนวน Tech Disruption อีกครั้ง
- อาจารย์มหาวิทยาลัย-มัธยมในอเมริกา เร่งยกเครื่องการสอน รับมือ ChatGPT หลังถูกนักศึกษานำมาใช้ทำการบ้านแทน
- ม.ธุรกิจชื่อดังของสหรัฐฯ พบ ChatGPT สามารถสอบผ่านหลักสูตร MBA และทำเกรดได้ดีกว่านักศึกษาจริงบางคน
ย้อนกลับไป เกตส์คือหนึ่งในผู้ที่สร้างยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในทศวรรษที่ 80 ก่อนที่บริษัทต่างๆ เช่น Microsoft และ Apple จะเข้าสู่ตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ถูกครอบครองโดยองค์กรขนาดใหญ่ รัฐบาล และมหาวิทยาลัย และถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์ทางเทคนิคระดับสูงที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับคนอเมริกันทั่วไป
จากคำพูดของผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ก็อาจตีความได้ว่า AI ก็อาจส่งผลกระทบต่อสังคมในลักษณะเดียวกัน
การศึกษาของบริษัทวิเคราะห์ UBS พบว่า ChatGPT อาจเข้าถึงผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนต่อเดือนในเดือนมกราคม เพียง 2 เดือนหลังเปิดตัว ซึ่งเร็วกว่าแอปยอดนิยมอย่าง TikTok ด้วยซ้ำ
ความร้อนแรงของ AI ดังกล่าวทำให้ Microsoft ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้าง ChatGPT ในปี 2019 ซึ่งความร่วมมือนี้ทำให้บริษัทอนุญาตให้ใช้สิทธิ์เทคโนโลยีแต่เพียงผู้เดียว
เกตส์ไม่ใช่คนเดียวที่มองเห็นความท้าทายที่เกิดขึ้นจาก ChatGPT เพราะในเดือนธันวาคม Google ได้ออก ‘รหัสแดง’ หลังจาก ChatGPT ออกเวอร์ชันล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน จนถึงขั้นทำให้มีการเรียกตัวแม่ทัพและผู้ร่วมก่อตั้งมาร่วมประชุมกันหลายครั้งเกี่ยวกับกลยุทธ์ AI ของ Google เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามที่แชตบอตแสดงต่อเครื่องมือค้นหาของยักษ์เทค
อ้างอิง: