×

มือปืนก่อเหตุกราดยิงประชาชนในงานตรุษจีนที่สหรัฐฯ ยิงปลิดชีพตัวเอง เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาแรงจูงใจ

23.01.2023
  • LOADING...
Huu Can Tram

จากที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าเกิดเหตุชายคนหนึ่งกราดยิงประชาชนที่มาร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนในห้องบอลรูมเต้นรำ ณ เมืองมอนเทอเรย์พาร์ก ใกล้กับนครลอสแอนเจลิสของรัฐแคลิฟอร์เนีย จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย วานนี้ (22 มกราคม) ตามเวลาประเทศไทย ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 มกราคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว หลังก่อเหตุผ่านไปราว 12 ชั่วโมง

 

ในการแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โรเบิร์ต ลูนา นายอำเภอของลอสแอนเจลิสเคาน์ตี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายชาวเอเชียชื่อ หู ก๋าน ตรั่ม (Huu Can Tram) วัย 72 ปี เหตุกราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเวลา 22.00 น. ของวันเสาร์ ตามเวลาสหรัฐฯ หรือราว 13.00 น. ของวันอาทิตย์ ตามเวลาประเทศไทย และภายหลังก่อเหตุเสร็จแล้วเพียง 20 นาที มือปืนรายนี้ยังเล็งที่จะไปกราดยิงซ้ำในสตูดิโอเต้นรำอีกแห่งหนึ่งในเมืองอัลฮัมบรา แต่เคราะห์ดีที่มีพลเมืองดี 2 คน สามารถแย่งปืนจากเขามาได้ ก่อนที่ชายคนนี้จะหลบหนีไป

 

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ต้องสงสัยได้ขับรถตู้สีขาวคันหนึ่งออกไปหลังก่อเหตุ โดยในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าปิดล้อมรถคันดังกล่าวที่เมืองทอร์แรนซ์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 34 กิโลเมตร ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากรถตู้ 1 นัด และตรั่มได้เสียชีวิตลง

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแรงจูงใจของการก่อเหตุ พร้อมกล่าวว่าตอนนี้ยังเร็วไปที่จะสรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชัง แต่ก็ได้ให้คำมั่นว่าจะเร่งทำการสืบสวนหาสาเหตุต่อไป โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาย 5 ราย และหญิง 5 ราย มีอายุระหว่าง 50-60 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 10 รายด้วยกัน

 

อนึ่ง เหตุกราดยิงจำนวนมากเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยการโจมตีในเมืองมอนเทอเรย์พาร์กถือเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 เมื่อมือปืนได้สังหารนักเรียน 19 ราย และครู 2 ราย ที่โรงเรียนในเมืองอูวัลเด รัฐเท็กซัส ขณะที่เหตุกราดยิงครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เกิดขึ้นเมื่อปี 1984 ซึ่งขณะนั้นมือปืนได้ก่อเหตุสังหารประชาชน 21 ราย ที่ร้าน McDonald’s ใกล้กับเมืองซานดิเอโก

 

ภาพ: Philip Cheung for The Washington Post via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X