×

BCP – ซื้อกิจการ ESSO เพื่อต่อยอดธุรกิจน้ำมัน

13.01.2023
  • LOADING...

เกิดอะไรขึ้น:

ในที่สุด บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ก็ประกาศเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นกับ ExxonMobil Asia Holdings Pte. เพื่อเข้าซื้อหุ้น 65.99% ของ ESSO โดยผู้บริหารกล่าวว่า การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย และเพิ่มการเข้าถึงพลังงานได้ง่ายขึ้น 

 

ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะสร้างกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานเพื่อนำไปลงทุนต่อและเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงาน โดย BCP จะต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือหลังจากบริษัทได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายน ในขณะที่ผู้บริหารไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการเพิกถอนหุ้น ESSO ออกจากตลาด 

 

การซื้อกิจการ ESSO จะทำให้กำลังการผลิตติดตั้งโรงกลั่นทั้งหมดของ BCP เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 120kbd ในปัจจุบัน สู่ 294kbd และสถานีบริการน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 59% จาก 1,320 แห่ง (ข้อมูล ณ สิ้นสุด 3Q65) สู่ 2,100 แห่ง

 

ด้านราคาเข้าซื้อ ผู้บริหารยืนยันว่าราคาเข้าซื้ออิงกับมูลค่ากิจการที่ 5.55 หมื่นล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในหนี้สินสุทธิ เงินทุนหมุนเวียน มูลค่าน้ำมันคงคลังที่ 7.4 ล้านบาร์เรล และสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ณ วันที่ทำธุรกรรมแล้วเสร็จ จากข้อมูลล่าสุด (สิ้นเดือนกันยายน 2565) ราคาเข้าซื้อเบื้องต้นที่ประเมินได้อยู่ที่ 3.06 หมื่นล้านบาท (8.84 บาทต่อหุ้น) 

 

ทั้งนี้ ExxonMobil ใช้กลไกการปรับราคาที่คล้ายกันกับการขายสินทรัพย์อื่นๆ ทั่วโลก เพื่อให้แน่ใจว่าได้มูลค่ายุติธรรมสำหรับทั้งผู้ขายและผู้ซื้อเมื่อพิจารณาจากราคาน้ำมันที่ผันผวน

 

สำหรับธุรกรรมนี้จะใช้แหล่งเงินทุนทั้งหมดจากวงเงินสินเชื่อที่ได้รับจากธนาคาร โดยอยู่ระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับข้อกำหนด เงื่อนไข และอัตราดอกเบี้ย บริษัทคาดว่าอันดับเครดิตจะไม่ได้รับผลกระทบ แม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนและอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA จะเพิ่มขึ้นสู่ 1.7 เท่า และ 2.2 เท่า ตามลำดับ (หากเข้าถือหุ้น 100% ใน ESSO) เทียบกับ 0.6 เท่า และ 1.1 เท่า ก่อนซื้อกิจการ 

 

ผู้บริหารคาดว่าธุรกรรมนี้จะเสร็จสิ้นภายใน 2H66 (น่าจะอยู่ในช่วงปลาย 3Q66 ถึงต้น 4Q66) หลังจากบรรลุเงื่อนไขบังคับก่อน เช่น ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของ BCP และได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงพลังงานให้ ESSO เปลี่ยนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และได้รับความเห็นชอบตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกฎหมายการแข่งขันทางการค้า

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BCP ปรับเพิ่มขึ้น 18.85% WoW สู่ระดับ 36.25 บาท ดีกว่า SET Index ที่ปรับเพิ่มขึ้น 0.14%MoM สู่ระดับ 1,676.21 จุด 

 

แนวโน้มธุรกิจและกลยุทธ์การลงทุน:

การซื้อกิจการ ESSO จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปสำหรับธุรกิจการตลาดของ BCP นอกจากนี้ ESSO ยังจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานลูกค้าในกลุ่ม Commercial/Wholesale ของ BCP และเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปประเภทเบา (น้ำมันเบนซิน) 

 

นอกจากนี้ ผู้บริหารยังคาดว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้เกิดมูลค่าจาก Synergy (ก่อนหักภาษี) ประมาณ 1.5-2 พันล้านบาท จากการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนจากการจัดหาน้ำมันดิบ การประกอบธุรกิจโรงกลั่น การขนส่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจทางอ้อม 

 

การซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยหนุนให้ EPS ตามข้อมูลทางการเงินเสมือนปรับเพิ่มขึ้นได้ 57% เมื่อเทียบกับงบการเงินเฉพาะกิจการของ BCP โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (ไม่รวม Synergy จาก Crude Run Rate ที่ดีขึ้น) และจะเพิ่มเป็น 66% ด้วย Synergy ด้าน Crude Run ระหว่าง BCP และ ESSO

 

InnovestX Research เชื่อว่าการซื้อกิจการ ESSO จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ BCP เมื่อพิจารณาจากราคาเข้าซื้อยุติธรรม กำไรส่วนเพิ่มจาก ESSO และประโยชน์จาก Synergy ในด้านการดำเนินงานและการตลาด 

 

โดยประเมินในเบื้องต้นได้ว่าการซื้อกิจการ ESSO จะหนุนให้ราคาเป้าหมายของ BCP ปรับเพิ่มขึ้นได้อีก 17-18 บาทต่อหุ้น หากดีลสำเร็จ อิงกับการซื้อกิจการ 100% โดยปัจจุบัน InnovestX Research ให้เรตติ้ง Outperform สำหรับ BCP ด้วยราคาเป้าหมาย 44 บาทต่อหุ้น (ก่อนซื้อกิจการ ESSO) และยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรของ BCP พอร์ตธุรกิจที่มีความหลากหลาย และประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและ GRM ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจส่งผลทำให้ขาดทุนสต๊อกเพิ่มขึ้น แต่มองว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น 

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรัฐบาลเข้าแทรกแซงเพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ


บทความที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising