ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นทั่วโลก ณ เวลา 12.30 น. ตลาดหุ้นในฝั่งเอเชียเปิดทำการในวันแรกของสัปดาห์นี้ ปรับตัวขึ้นได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียงดัชนี IDX Composite ของอินโดนีเซีย -0.08% ดัชนี CSE All-Share ของศรีลังกา -0.47% และดัชนี Karachi 100 ของปากีสถาน -0.56%
ส่วนตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่นในวันนี้คือ ดัชนี BIST 100 ตุรกี +4.41% ดัชนี KOSPI เกาหลีใต้ +2.48% ดัชนี Taiwan Weighted ไต้หวัน +2.15% ดัชนี Hang Seng ฮ่องกง +1.81% ดัชนี PSEi Composite ฟิลิปปินส์ +1.36% และดัชนี Nifty 50 อินเดีย +1.31%
ขณะที่ดัชนี SET ของตลาดหุ้นไทย บวกขึ้นมา 13.76 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.82% มาอยู่ที่ 1,687.62 จุด จากแรงหนุนของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นำโดยหุ้นอย่าง DELTA ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 5% ในวันนี้ ส่งผลต่อดัชนีประมาณ 3.8 จุด ส่วนกลุ่มหุ้นที่ช่วยหนุนดัชนีรองลงมาคือไฟแนนซ์และพาณิชย์
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกในวันนี้เป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อคืนวันศุกร์ ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ จะออกมาไร้ทิศทาง เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานที่ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงออกมาแย่กว่าคาด
“ภาพรวมทำให้ตลาดพอจะยอมรับได้ ถือว่าไม่ได้เซอร์ไพรส์ในทางลบ ทำให้นักลงทุนราว 3 ใน 4 ของตลาดเทน้ำหนักไปว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเหลือเพียง 0.25%”
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจะวิ่งขึ้นต่อหรือไม่ในระยะสั้น ขึ้นอยู่กับการส่งสัญญาณของสมาชิก Fed ในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ว่ามีแนวโน้มจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่
“ส่วนตัวยังมองไม่ออกว่า Fed จะทำอย่างไรในการประชุมครั้งถัดไป เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเพียงแค่ครั้งเดียว จาก 0.75% มาเหลือ 0.5% ช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ จะเริ่มเห็นสมาชิก Fed ออกมาสื่อสารกับตลาดมากขึ้น ทำให้ตลาดยังมีโอกาสแกว่งไปมาตามข้อมูลใหม่”
สำหรับหุ้นไทยมีโอกาสจะล้อไปกับประเด็นนี้ เพราะต่างชาติเป็นกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ประเด็นเรื่อง Fed มีน้ำหนักมากพอสมควร
โดยภาพรวมประเมินแนวต้านของดัชนี SET ระยะสั้นที่ 1,700 จุด แม้เราจะมองกรณีดีสุดปีนี้ที่ 1,760 จุด สำหรับนักลงทุนที่มีต้นทุนต่ำในระดับ 1,600 จุด อาจแบ่งขายทำกำไรในบริเวณนี้
ด้าน เบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้อำนวยการอาวุโส บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในระยะสั้นมีโอกาสที่ดัชนี SET จะวิ่งขึ้นไปทดสอบ 1,700-1,720 จุด ด้วยแรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ตลาดกำลังเฝ้าติดตาม เพราะจะส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินหลังจากนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับพอร์ตหุ้นเรายังคงแนะนำถือเงินสด 50% เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจหลังจากนี้ ส่วนธีมหุ้นที่น่าสนใจแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ ธีมเปิดเมือง โรงไฟฟ้า เศรษฐกิจฟื้นตัว และสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มพลังงาน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- คัด 10 หุ้นราคาต่ำ 10 บาท P/E ต่ำ ปันผลสูง ราคา YTD ยังบวก
- 10 หุ้นร้อน หนี้สิน (D/E) เกิน 2 เท่า เงินสดสุทธิติดลบ
- เช็กลิสต์ 10 หุ้นใหญ่สุด ใน 10 หมวดธุรกิจที่ Market Cap สูงสุด