วานนี้ (2 มกราคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของจีนประกาศเตือนว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ โรคโควิดอาจแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ชนบทที่ขาดแคลนเครื่องมือรักษาโรค จนอาจทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในจีนรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
สังคมจีนกำลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิดครั้งใหญ่ นับตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนที่ทางการจีนจะตัดสินใจปรับเปลี่ยนนโนบายคุมเข้มเพื่อรับมือโควิดที่ใช้มานานเกือบ 3 ปี อย่างนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID) มาเป็นการปรับตัวและใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางโรคระบาด หลังประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอยและเกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลจีนที่ใช้มาตรการรับมือโควิดที่เข้มงวดมากจนเกินไป เป็นเหตุให้ในบางพื้นที่ถึงกับมีการชุมนุมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำประเทศ
นอกจากนี้ ทางการจีนยังเตรียมเปิดพรมแดนประเทศในวันที่ 8 มกราคมนี้ พร้อมผ่อนคลายมาตรการรับมือโควิด ทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะหน่วยงานด้านสาธารณสุขของจีนกังวลใจเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งชาวจีนจำนวนมากจะทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมของตน เพื่อเฉลิมฉลองช่วงวันหยุดกับครอบครัว โดยในปีนี้ตรงกับช่วงกลางๆ เดือนมกราคม 2023
ตลอดช่วงเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ทางการจีนปิดพรมแดนประเทศ สั่งล็อกดาวน์และดำเนินมาตรการคุมเข้ม เพื่อรับมือโรคระบาดอย่างจริงจัง เป็นเหตุให้กิจกรรมและธรรมเนียมการปฏิบัติต่างๆ ในแต่ละเทศกาลถูกยกเลิก เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย หวั่นเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
แต่การประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายรับมือโควิดระดับชาติเมื่อช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา ทำให้นักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งมองว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้ช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้เกิดการไหลทะลักของผู้คนจำนวนมาก และมีการใช้จ่ายเงินในปริมาณที่สูง เพื่อชดเชยโอกาสที่เสียไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
เจียวยาฮุย หัวหน้าสำนักบริหารด้านการแพทย์ของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนระบุว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ที่ชาวจีนจำนวนมากจะหลั่งไหลกลับภูมิลำเนา อาจเกิดการแพร่ระบาดใหญ่จากประชาชนที่มาจากเมืองใหญ่สู่ผู้คนในชนบท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนกำลังเร่งประสานงาน เพื่อทยอยส่งเครื่องมือแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปยังพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนเครื่องมือในการรักษา
โดยช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ห้องฉุกเฉินตามโรงพยาบาลและเตาเผาศพในเมืองใหญ่ๆ ของจีนแน่นขนัดจนเกินอัตราที่จะรองรับไหว เนื่องจากประชากรผู้สูงอายุของจีนมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิดช้ากว่ากลุ่มที่มีอายุน้อย จึงมีผู้ป่วยโควิดเป็นจำนวนมาก และสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้นในพื้นที่ชนบทที่ยังมีข้อจำกัดด้านการรักษาอยู่มาก
ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้ขอความร่วมมือให้ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดภายในประเทศ รวมถึงข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิดในจีนที่มีความรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังจากจีนจะเปิดประเทศในวันที่ 8 มกราคมนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสังคมจีนและประชาคมโลก เบื้องต้นหลายประเทศเริ่มประกาศมาตรการโควิด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่อาจจะไหลทะลักเข้าประเทศของตนตั้งแต่ช่วงต้นปีใหม่นี้
แฟ้มภาพ: Hector Retamal / AFP
อ้างอิง: