เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบการใส่คาเวียร์ประดับอาหาร หมายถึงการใส่คาเวียร์เม็ดสวยมาแล้วสัมผัสไม่ได้ถึงรสชาติ หรือไม่ได้ทำให้อาหารจานนั้นมีรสชาติพิเศษขึ้น การกลับมาชิมคอร์สเมนูใหม่ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิของ ‘Kinu by Takagi’ ครั้งนี้ เราจึงตั้งความหวังไว้สูงพอตัว
เพราะเป็นคอร์สเมนูที่มาพร้อมไฮไลต์ไม่ธรรมดา เนื่องจากเชฟจะใส่ ‘คาเวียร์’ ลงไปในทุกคอร์สให้ทุกคนได้ลิ้มรสกัน
ในวันที่เราไปยังมีความพิเศษเพิ่มอีก เนื่องจาก ‘เชฟทาคากิ คะซุโอะ’ เจ้าของห้องอาหาร Kinu บินตรงจากญี่ปุ่นมาเยี่ยมเยียนทีมครัว พร้อมกับอยู่เสิร์ฟเมนูใหม่ให้พวกเราชิม แถมก่อนเริ่มมื้ออาหารยังมีการชิมคาเวียร์ 4 ชนิดที่เชฟจะใช้ในเมนูใหม่ด้วย เพื่อให้เรารู้จักรสชาติที่แท้จริงของคาเวียร์ชั้นดี โดยทั้งหมดเป็นคาเวียร์จากแบรนด์ Sturia ประเทศฝรั่งเศส
“อันดับแรกเลยคุณต้องดูความกลม สี และขนาด หลังจากนั้นค่อยชิมเนื้อสัมผัส อาจนิ่มหรือกรุบกรอบ สุดท้ายคือรสชาติ คาเวียร์ที่ดีต้องไม่มีกลิ่น” ผู้เชี่ยวชาญจากฟาร์มคาเวียร์ Sturia พูดให้ฟัง
ส่วนคาเวียร์ 4 ชนิดที่เชฟทาคากิเลือกมาจะอยู่ในเมนูทั้งมื้อกลางวัน 5 คอร์ส และมื้อเย็น 10 คอร์ส ถ้าหากเลือกเป็นมื้อเย็นจะได้ชิมครบทุกชนิด เพราะฉะนั้นอย่ารีรอกันดีกว่า มาดูเมนูมื้อกลางวันที่เราได้ชิมเลย
เปิดด้วยจานเริ่มต้น Sakizuke เชฟเสิร์ฟความสดชื่นให้ชิมรับฤดูใบไม้ผลิ เป็นสแกลลอปฮอกไกโดกับเนื้อปูทาทาร์ มาพร้อมบีตรูต สายบัว ฟักทองพิวเร ก่อนเติมความอูมามิด้วยคาเวียร์ Oscietra ที่มีความเข้มข้นและรสสัมผัสคล้ายอะโวคาโด กลายเป็นตัวเชื่อมรสชาติทั้งหมดให้เข้ากันมากๆ
หลังจากนั้นตามด้วย Tsukuri หรือซาชิมิเนื้อปลาประจำวัน เราได้ชิมทูน่า ชูโทโร่ และซาวาระ หรือปลาอินทรีญี่ปุ่นที่เชฟนำไปหมักคอมบุข้ามคืนให้รสชาติเข้มข้น มีความอูมามิ กินพร้อมวาซาบิจากฟุกุโอกะ
จานนี้ไม่มีคาเวียร์เป็นส่วนประกอบ ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะเป็นเมนูซาชิมิ
เข้าสู่คอร์ส Hassun เชฟจะพาเราเดินเล่นท่องญี่ปุ่น ชมใบไม้ผลิผ่านอาหารแต่ละคำ เริ่มจากซูชิแซลมอนที่ทำเหมือนลูกพลับ ซึ่งเป็นผลไม้ประจำฤดูกาลนี้ ก่อนตามด้วยลูกเกาลัดตกจากต้น ที่ทำจากเกาลัดเชื่อมและเส้นโซเมนทอด
เชฟเล่าให้ฟังว่าฤดูกาลนี้คนญี่ปุ่นนิยมไปปีนเขา และมักเจอลูกเกาลัดตกอยู่ตามพื้นเต็มไปหมด เขาจึงนำไอเดียนี้มาเปลี่ยนเป็นเมนูเกาลัดให้พวกเราชิม
อีกคำหนึ่งคือปลาคามาสึย่าง เชฟนำปลาพันกับเห็ดไมตาเกะก่อนย่างเตาถ่าน และท็อปด้วยคาเวียร์ Origin ที่หมักนาน 9 เดือน คาเวียร์ชนิดนี้จึงมีรสเข้มข้นที่สุดจากทั้งหมด ส่วนในถ้วยเป็นเมนูคล้ายสลัด ผสมไปด้วยเห็ด ถั่ว ซอสไข่มัสตาร์ด และวาซาบิ
เชฟทาคากินำจานรูปน้ำเต้านี้มาจากญี่ปุ่นเองด้วยนะ เพราะเชฟบอกว่าสมัยก่อนคนญี่ปุ่นนิยมใช้น้ำเต้ามาทำขวดใส่สาเกดื่ม
หลังจากน้ันเป็นเมนูของทอดหรือ Agemono เชฟเสิร์ฟฟองเต้าหู้ทอดกับซอสดาชิคอมบุที่เพิ่มความหนืดด้วยแป้งคล้ายวาราบิ ส่วนด้านบนเป็นคาเวียร์ Oscietra แม้ดูเป็นเมนูเรียบง่ายแต่กินอร่อยจนทุกคนเอ่ยปากชม
Rice มักเป็นคอร์สที่ดูน้อยแต่มาก เรียบง่ายทว่าทำให้เรารักรสชาติในทุกๆ คำได้เหมือนทุกที ครั้งนี้เชฟเสิร์ฟข้าวฮอกไกโดหุงกับสาเกหวาน มาพร้อมอูนิจากจังหวัดเดียวกัน และคาเวียร์ Origin ที่รสเข้มข้นอูมามิสู้กับอูนิได้
เราแนะนำให้กินทุกอย่างครบในทุกคำ สลับกับซดซุปมิโซะแดง และผักดองที่เป็นเครื่องเคียงดาวเด่นเช่นกัน
ปิดท้ายด้วย Dessert เป็นไอศกรีมเกาลัด โฮจิฉะเยลลี่ กับลูกพลับและลูกแพร์สด ราดซอสบราวชูการ์คัสตาร์ด
“หลายคนบอกว่าแชมเปญเข้ากับคาเวียร์ได้ดี แต่ผมว่าสาเกช่วยดึงรสชาติคาเวียร์ได้มากกว่า เพราะพวกเราก็มีอิกุระในอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน” เชฟทาคากิบอก เผื่อว่าคนไหนอยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ด้วยการจิบสาเกที่คัดเลือกโดยซอมเมอลิเยร์จากโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โตเกียว คู่กับเมนูพิเศษที่จะมีเพียง 2 เดือนนี้เท่านั้น
Kinu by Takagi
Address: โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ 48 ซอยเจริญกรุง 40 บางรัก กรุงเทพฯ
Open: เปิดทุกวันพุธ-อาทิตย์ มื้อกลางวันเริ่มเวลา 12.00 น. และมื้อเย็นเริ่มเวลา 18.00 น.
Contact: โทร. 02 659 9000 หรืออีเมล [email protected]
Budget: 4,000-8,000 บาท++
Website: Kinu by Takagi
Map: https://g.page/MandarinOrientalBangkok
- คอร์สเมนูนี้จะเสิร์ฟในราคาปกติ คือ มื้อกลาง 5 คอร์ส 4,000++ บาท และมื้อเย็น 10 คอร์ส 8,000++ บาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2565